คอนโด, บ้านจัดสรร, บ้านโครงการ,คอนโดมิเนียม,บ้านเดี่ยว, บ้านมือสอง,บ้านเช่า,ขายบ้าน, ที่ดิน, ตกแต่งบ้าน
อัพเดตล่าสุดวันที่ 19/4/2567
หน้าแรก | บ้าน คอนโด บ้านมือสอง | ประกาศ ซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดิน | สินเชื่อ | ตกแต่งบ้าน | เรื่องน่ารู้ | ไลฟ์สไตล์ | ลงประกาศซื้อขายฟรี
 
User Name
Password
เมนูหลัก
สมัครสมาชิก ลงประกาศ
ลืมรหัสผ่าน
ลงประกาศซื้อขาย
ค้นหาประกาศซื้อขาย
คู่มือซื้อขายบ้าน
ติดต่อสอบถาม

เครื่องตัดหญ้าเลือกซื้ออย่างไรใช้คุ้มค่า

decorating idea design การดูแลและซ่อมแซมตกแต่งบ้านนั่นเป็นเรื่องหนึ่งละ คุณพ่อบ้านแม่บ้านยุคนี้ดูเหมือนจะต้องเรียนรู้เรื่องพรรค์นี้ไว้มากสักหน่อย เพราะจะเป็นประเภทมีอะไรก็ใช้เงินจ้างคนมาทำให้แบบสบายตัวแต่ไม่สบายตังค์ ดูเหมือนจะกลายเป็นอดีตไปแล้ว จึงเกิดคำที่ฮิตติดปากโดยไม่ต้องรณรงค์ขึ้นมาว่า DIY (Do it yourself) แปลเป็นไทยง่าย ๆ ว่า “ทำเองซะเหอะ”

นั่นมันเรื่องเกี่ยวกับบ้านและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้าน แต่วันนี้เราจะพูดถึงสวนและสนามหญ้าสวย ๆ อันได้กลายเป็นส่วนสำคัญของบ้านของพ.ศ.นี้ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อจัดสวนก็ต้องมีสนามหญ้า เมื่อมีสนามหญ้าก็ต้องมีการดูแล เพราะหญ้าแท้ ๆ ที่ไม่ใช่หญ้าเทียม ๆ มันจะงอกงามจนกลายเป็นรกรุงรังถ้าหากไม่ตัดแต่งอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าฝน เมื่อหญ้ายาวรกเรื้ออสรพิษและสัตว์เลื้อยคลานที่ไม่พึงประสงค์ก็เข้ามาขออาศัยให้เป็นที่หวาดผวา ที่พอมีเงินหน่อยก็จ้างเขาตัด ที่ยังต้องผ่อนบ้านอีกหลายสิบปีก็ต้องพึ่งตัวเอง คำถามที่มักได้ยินบ่อย ๆ จากพ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่ประเภทนี้คือ จะซื้อเครื่องตัดหญ้าแบบไหนดี? ยี่ห้ออะไรดี ? ตอบกันจนเบื่อ ก็เลยขอเอาเรื่องนี้มาเขียนลงบล็อกเสียเลย

ว่ากันถึงเครื่องตัดหญ้า จะขอจำแนกเป็นสามประเภทใหญ่ ๆ ตามแหล่งที่มาของพลังงานเป็นสำคัญ ใครยังค้างคาใจว่าจะซื้อเครื่องตัดหญ้าประเภทไหนดี ก็ลองอ่านประกอบการตัดสินใจครับ

เครื่องตัดหญ้าแบบใช้แรงคน



เครื่องตัดหญ้าประเภทนี้ใช้เฟืองทดในการขับเคลื่อนชุดใบมีด พลังงานในการขับเคลื่อนก็มาจากแรงคนเข็นนี่แหละครับ เมื่อมันขับเคลื่อนด้วยแรงคน ก็เลยหมดปัญหาเรื่องแหล่งพลังงาน และเสียงรบกวน (ยกเว้นคนตัดไม่เต็มใจตัด แต่ถูกคนข้าง ๆ บังคับขู่เข็ญให้ตัดก็เลยอาจได้ยินเสียงบ่นกระปอดกระแปดของคนที่เป็นแรงงาน และเสียงสั่งการของผู้บังคับบัญชา)

ใครที่คิดจะซื้อหาเครื่องชนิดนี้มาใช้ จึงพึงระลึกถึงสิ่งสำคัญสองประการ คือ

1. ขนาดของสนามหญ้า ถ้ากว้างมาก เครื่องชนิดนี้ไม่เหมาะกับท่านแน่

2. สุขภาพและเวลาว่าง เครื่องตัดหญ้าชนิดนี้กินแรง กินเวลา ไม่รวดเร็วปรู๊ดปร๊าดเหมือนเครื่องชนิดอื่น ดังนั้น ถ้าสุขภาพไม่ดี หรือสุขภาพดีแต่ไม่มีเวลา หรือแม้จะมีดีทั้งสองอย่าง แต่รักสบาย ถึงติดจะขี้เกียจ เครื่องชนิดนี้ก็ไม่เหมาะเหมือนกัน

ข้อดีข้อเสียของเครื่องชนิดนี้

1. ราคาไม่แพงนัก (เท่าที่ทราบ ของผลิตในประเทศจีนคุณภาพพอใช้ได้ อยู่ที่ประมาณ 3 พันกว่าบาท)

2. ใบมีดต้องคม จึงเป็นภาระลำดับต้น ๆ ของเจ้าของเครื่องชนิดนี้ที่จะต้องหมั่นลับใบมีดให้คมอยู่เสมอ เพราะความคมความทื่อของใบมีด จะมีผลโดยตรงต่อกำลังแรงงานและเวลาที่ต้องสูญเสียไปในการตัดหญ้าแต่ละครั้ง

3. ไร้เสียงรบกวน และอันตรายจากการใช้เครื่องแบบนี้มีค่อนข้างน้อย

4. ได้ออกกำลังกายในระหว่างการทำงาน

เท่าที่เห็นมา ผู้สูงอายุบางท่านชอบเครื่องตัดหญ้าชนิดนี้ โดยให้เหตุผลว่าได้ออกกำลังกายไปด้วย นับเป็นประโยชน์อันเอนกอนันต์ของเครื่องชนิดนี้ โดยทั่วไป ผู้สูงอายุมักจะมีเวลาว่างเหลือเฟืออยู่แล้ว การได้ช่วยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้สุขภาพจิตของท่านดีขึ้น และยังเป็นการกระตุ้นให้ท่านได้ออกกำลังกายอีกทางหนึ่ง หากมีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน อาจซื้อหาเครื่องชนิดนี้ไว้ให้ท่านใช้ตัดเพื่อความเพลิดเพลิน โดยไม่หวังผลสำเร็จของงานมากนักก็จะเป็นการดีอย่างยิ่งครับ

เครื่องตัดหญ้าแบบใช้ไฟฟ้า

ดูเหมือนเครื่องตัดหญ้าชนิดนี้จะแพร่หลายที่สุดในปัจจุบัน เหตุผลของมันคือ แหล่งพลังงานที่หาง่าย ไม่ต้องซื้อหาเพิ่มเติม เพราะทุกบ้านต้องมีปลั๊กไฟอยู่แล้ว เพียงแต่ลากสายมาเสียบปลั๊กก็ใช้ได้เลย

เครื่องตัดหญ้าชนิดใช้ไฟฟ้านี้ มีสองประเภทใหญ่ ๆ คือ


1. เครื่องชนิดมีลูกล้อ เครื่องแบบนี้ มักจะปรับระดับความสูงต่ำของใบมีดโดยมีคันโยกเปลี่ยนระดับที่ล้อ บางรุ่นอาจใช้การเสริมแหวนที่ใบมีด มอเตอร์ของเครื่องชนิดนี้โดยทั่วไปมักจะมีความเร็วรอบไม่สูงมากนัก เพราะแรงของมอเตอร์จะถูกนำไปใช้ในการหมุนใบมีดตัดหญ้าเพียงอย่างเดียว ราคาของเครื่องจะถูกกว่าเครื่องแบบลอยตัว (3พัน – 5 พันบาท ในแบบทั่ว ๆ ไปที่มีจำหน่าย ใบมีดขนาด 12-16 นิ้ว) มีทั้งแบบมีกล่องเก็บหญ้า และแบบไม่มีกล่อง(ราคาถูกกว่าเล็กน้อย)




2. เครื่องชนิดลอยตัว เครื่องตัดหญ้าแบบนี้ไม่มีล้อ เวลาใช้งานมอเตอร์แรงสูง จะหมุนจานปั่นลมที่อยู่ติดกับใบมีด ทำให้เครื่องถูกแรงลมยกให้ลอยขึ้นเล็กน้อยเหมือนยานโฮเวอร์คร้าฟท์ ทำให้เวลาตัดจะหญ้าจะรู้สึกเบา มีทั้งแบบมีกล่องและไม่มีกล่องเก็บหญ้า ใบมีดมีหลายขนาดแล้วแต่ยี่ห้อ เนื่องจากไม่มีลูกล้อให้เกะกะ จึงสามารถตัดหญ้าในซอกเล็กซอยน้อยได้ดีกว่าแบบมีลูกล้อ เครื่องตัดหญ้าแบบนี้ ใช้ตัดหญ้าบริเวณที่ตกแต่งเป็นเนินในสนามได้ดีกว่าเครื่องตัดหญ้าอื่นทุกประเภท เพราะสามารถเอียงเครื่องตัดไปตามความโค้งของเนินได้เต็มที่

ด้วยคุณสมบัติการลอยตัวได้ของเครื่องชนิดนี้ พนักงานขายจึงชอบนักกับการสาธิตให้ลูกค้ามือใหม่ดู เพราะส่วนใหญ่จะสาธิตกันบนพื้นแข็ง ๆ ในร้านค้า พอเปิดเครื่องดูเหมือนเครื่องจะล่องลอยไปมาจนแทบจะไม่ต้องใช้แรง และเขาก็จะสาธยายคุณความดีของมันประมาณว่า เห็นไหมครับ เบาแรงเหมือนไม่ต้องทำอะไรเลย ลูกค้าเกือบร้อยทั้งร้อยก็มักจะเคลิบเคลิ้มจนควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อเครื่องชนิดนี้ แต่พอกลับมาถึงบ้าน ใช้ตัดหญ้าจริง ผลคือต้องออกแรงเข็นจนเหงื่อไหลไคลย้อย เหตุผลคือ สนามหญ้าไม่ใช่พื้นแข็ง ๆ ที่เครื่องจะยกตัวได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามหญ้าที่ชื้นสักหน่อย แรงฝืดของเครื่องชนิดนี้จะยิ่งทำให้คิดถึงเครื่องแบบมีลูกล้อขึ้นมาติดหมัดทีเดียวเชียว


เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าทั้งสองชนิดนี้ มีข้อพึงระวังสำคัญคือ เวลาใช้งาน จะต้องเคลียร์ให้สายไฟอยู่ด้านหลังผู้ตัดเสมอ แม้ในตัวเครื่อง จะมีระบบตัดการทำงานเมื่อเครื่องตัดเอาสายไฟขาดก็ตาม การทะเลาะกับสายไฟที่ยาวย้วยยุ่มย่าม จึงเป็นอริยาบทแรก ๆ ของมือใหม่ที่เพิ่งใช้เครื่องชนิดนี้ ผู้เขียนมีประสบการณ์ถึงขนาดต้องเชิญผู้บังคับบัญชาที่บ้านมาเป็นองค์ประธานในการตัดหญ้า โดยมอบหน้าที่ให้ถือสายไฟเดินตามคนตัด ภาพที่ออกมาจึงเหมือนคนถือเชือกล่ามวัวควายอยู่ในสนามหญ้ายังไงยังงั้น...

ข้อดีข้อเสียของเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า

1. ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเครื่องใช้น้ำมัน ชนิดลอยตัวอาจแพงถึงหลักหมื่น แต่แบบใช้ลูกล้อราคาจะถูกลงกว่าครึ่ง

2. แหล่งพลังงานหาง่าย ไม่ต้องซื้อหาเพิ่มเติม

3. เสียงไม่ดังนัก เมื่อเทียบกับเครื่องชนิดใช้น้ำมัน แต่เสียงจะดังขึ้นตามอายุการใช้งาน (อันนี้เป็นคุณสมบัติร่วม ระหว่างเครื่องตัดหญ้ากับภรรยา)

4. ใบมีดไม่ต้องลับบ่อยนัก เพราะอาศัยความเร็วรอบที่ค่อนข้างสูงในการตัดให้หญ้าขาด แต่หากจะลับ ต้องเช็คให้มั่นใจว่า ลับใบมีดได้เสมอกันทั้งสองด้าน โดยเมื่อลับเสร็จ ให้ใช้แท่งดินสอสอดเข้าไปในรูตรงกลางใบมีด สังเกตอย่าให้ใบมีดหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง มิฉะนั้น จะทำให้เครื่องสั่นเป็นเจ้าเข้า ตัดไปนาน ๆ มือที่จับเครื่องจะชาจนแทบหมดความรู้สึก



5. ไม่ต้องการการบำรุงรักษามากนัก ใช้เสร็จอาจแค่ใช้เกียงแซะเศษหญ้าที่ติดอยู่ใต้ตัวเครื่องออกแล้วเก็บเข้าห้องเก็บของได้เลย

6. ถ้าใช้แบบมีกล่องเก็บหญ้า จะลดภาระในการเก็บกวาดหญ้าที่ตัดแล้วได้ในระดับหนึ่ง แต่เวลาตัดก็จะหนักแรงมากกว่า

7. มีสายไฟเกะกะ ต้องคอยระวังการตัดโดนสายไฟ ถ้าสนามหญ้ายาว หรือห่างจากตัวบ้านมาก จะต้องมีสายพ่วงเพิ่มความยาวอีก ทำให้ยิ่งเกะกะในระหว่างใช้งาน

8. ไม่ค่อยพบปัญหาจุกจิกระหว่างการใช้งาน กดสวิทช์เปิดเครื่องได้ก็ตัดได้ เปิดแล้วไม่ติดก็แปลว่าเครื่องเสีย ส่วนเสียแล้วจะซ่อมได้หรือไม่ คุ้มที่จะซ่อมหรือไม่นั่นเป็นอีกปัญหาหนึ่ง โดยทั่วไปถ้ามอเตอร์ไหม้ ก็ต้องโยนทิ้ง ไม่คุ้มที่จะเปลี่ยนมอเตอร์ เพราะราคาแพงเกือบเท่าซื้อเครื่องใหม่ ผู้เขียนเคยเอามอเตอร์ที่เสียไปจ้างร้านซ่อมไดนาโมพันให้ใหม่ ผลคือ เอากลับมาใช้ได้อีกสองสามครั้งก็ไหม้อีก เพราะลวดทองแดงที่ใช้พันไม่เหมือนของเดิมที่มาจากโรงงาน

9. อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น เครื่องหนึ่ง ๆใช้ได้ 4-5 ปีก็นับว่าเก่งแล้ว (กรณีที่ตัดหญ้าเดือนละ 2 ครั้ง ในบ้านขนาด 200 ตารางวา อย่างสม่ำเสมอ)

10. แรงของเครื่องชนิดนี้ไม่ดี เจอหญ้ายาว ๆ สักหน่อย โดยเฉพาะหญ้านวลน้อยหน้าฝน เครื่องชนิดนี้มักเดี้ยงเอาง่าย ๆ วิธีแก้ก็คือ ต้องตัดหญ้าสองรอบ รอบแรกตั้งความยาวให้สูดสุด ตัดยอดหญ้าทิ้งไปรอบหนึ่ง แล้วค่อยตั้งใบมีดให้ต่ำลงเพื่อตัดให้ได้ความยาวตามปกติ ทำให้สิ้นเปลืองแรงงาน และในบางหย่อมของสนามที่หญ้าทั้งยาวทั้งหนา อาจเข็นเดินหน้าไม่ได้เลย เข็นเข้าไปเครื่องจะดับและมอเตอร์จะไหม้ วิธีแก้คือ ลากเครื่องถอยหลัง เพื่อให้เครื่องฟาดหญ้าให้ล้มลงเสียรอบหนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยเข็นเดินหน้า

ข้อพึงระวังสำหรับเครื่องชนิดนี้คือ ในกรณีที่บ้านมีเด็กวัยกำลังซุกซน ไม่ควรเสียบปลั๊กเครื่องทิ้งไว้ เพราะเด็กอาจมาเล่นจนเกิดอันตรายได้ ไม่ควรหงายเครื่องขึ้นในขณะเครื่องกำลังทำงานอยู่ ไม่ควรสัมผัสส่วนที่เป็นมอเตอร์หลังใช้งานเสร็จใหม่ ๆ เพราะมันร้อนมาก และที่สำคัญ พึงตระหนักว่า น้ำกับไฟ(ฟ้า) มันไม่ถูกกัน จึงไม่ควรใช้งานในสนามที่เปียกชื้น หรือในขณะฝนตก

โดยสรุป เครื่องตัดหญ้าชนิดนี้ เหมาะกับบ้านที่มีสนามหญ้าไม่กว้างนัก และเจ้าของบ้านเป็นคนขยันพอสมควร สามารถตัดหญ้าได้อย่างสม่ำเสมอเดือนละสองครั้งเป็นอย่างน้อย เพราะหากเว้นนานกว่านี้ หญ้าจะยาวจนเกินกำลังเครื่อง ต้องเสียเวลาตัดหลายครั้ง บ้านที่มีแต่ผู้หญิงดูเหมือนจะเหมาะกับเครื่องชนิดนี้ที่สุด เพราะไม่จุกจิก ไม่ต้องเตรียมเนื้อเตรียมตัวอะไรมากมาย แต่นั่นก็ต้องแลกกับอายุใช้งานที่ค่อนข้างสั้น และกำลังเครื่องที่ค่อนข้างน้อย ก็ลองพิจารณาให้เหมาะกับแต่ละคนนะครับ

เครื่องตัดหญ้าชนิดใช้เครื่องยนต์ หรือเครื่องน้ำมัน



เป็นเครื่องตัดหญ้าคลาสสิค และยังครองความคลาสสิคต่อไปอย่างยากจะหาเครื่องชนิดอื่นมาเทียมทัน มีจุดเด่นอยู่ที่กำลังแรงของเครื่องที่เหลือเฟือในการสู้รบกับหญ้ายาว ๆ และอายุการใช้งานที่ยาวนานของเครื่อง อาจพูดได้ว่า ซื้อเครื่องเดียวใช้ไปชั่วชีวิตก็ว่าได้ มีทั้งแบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ และ 4 จังหวะให้เลือกตามความถนัดของแต่ละคน

เครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมันนี้ มี 2 ประเภทย่อย ๆ ให้เลือกคือ



1. เครื่องตัดแบบสะพายบ่า ที่ผู้เขียนชอบเรียกว่าเครื่องหางยาง

เครื่องชนิดนี้เหมาะสำหรับตัดหญ้าลำต้นสูง ๆ เช่นพวกหญ้าคาที่ขึ้นตามริมถนนเสียมากกว่า ไม่เหมาะที่จะใช้ในบ้าน เพราะต้องสะพายไว้บนบ่า แม้จะไม่หนักมากนัก แต่สะพายไว้นาน ๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน และที่สำคัญคือ เรื่องของความปลอดภัย เครื่องชนิดนี้ต้องการความชำนาญของผู้ใช้เครื่องค่อนข้างสูง โอกาสที่เศษหญ้า หรือเศษก้อนกรวดก้อนดินจะกระเด็นใส่ตาของผู้ใช้มีค่อนข้างมาก หรืออาจกระเด็นโดนรถโดนกระจกเสียหาย จึงไม่แนะนำผู้ที่ไม่มีความชำนาญให้ใช้เครื่องชนิดนี้

หากจะใช้จริง ๆ อุปกรณ์สำคัญที่ต้องซื้อหามาใช้ควบคู่ไปด้วยคือ แว่นตานิรภัย ให้สวมใส่ทุกครั้งที่ใช้เครื่อง ป้องกันเศษกิ่งไม้หรือก้อนหินกระเด็นเข้าตา และก่อนตัดทุกครั้ง ต้องเดินสำรวจพื้นที่ เก็บเศษหินเศษปูนออกให้หมดสนามหญ้าก่อนเสมอ

2. เครื่องตัดหญ้าน้ำมันแบบรถเข็น



รูปร่างหน้าตาก็ไม่ต่างอะไรกับรถเข็นตัดหญ้าแบบไฟฟ้า ที่ต่างคือมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กอยู่ด้านบน เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องเบนซิน ส่วนใหญ่เป็นแบบ 4 จังหวะ เติมน้ำมันเบนซินเข้าไปก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องผสมน้ำมันออโต้ลูปให้วุ่นวายเหมือนเครื่องยนต์ 2 จังหวะ แถมเดี๋ยวนี้ ผู้ผลิตยังออกแบบให้มีกล่องเก็บหญ้ามาให้ด้วย ทำให้ประหยัดเวลาในการเก็บกวาดสนามหลังตัดหญ้าเสร็จได้อีกโข (สมัยก่อน เครื่องชนิดนี้นิยมออกแบบให้เป่าหญ้าออกข้าง ตัดเสร็จต้องตามกวาดตามโกยเศษหญ้าอีกรอบ)

การปรับตั้งระดับของใบมีด ใช้คันโยกเปลี่ยนระดับความสูงของล้อ ความคมของใบมีดมีผลต่อความรวดเร็วสวยงามของหญ้าที่ตัดพอสมควร เนื่องจากรอบไม่จัดเท่าเครื่องไฟฟ้า จึงน่าที่จะถอดใบมีดเอาไปลับอย่างน้อย 5-6 เดือน/ครั้ง

จุดเด่นของเครื่องชนิดนี้คือ กำลังที่มีให้เหลือเฟือเพื่อใช้พิชิตหญ้าหน้าฝนของเขตร้อนชื้นอย่างเมืองไทย จุดอ่อนที่สุดของมันกลับเป็นเรื่องเสียงของเครื่องที่ดังกว่าเครื่องตัดหญ้าชนิดอื่นทุกชนิด

ข้อดีและข้อเสีย

1. ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับเครื่องที่ใช้ไฟฟ้า (ระดับราคามีตั้งแต่หมื่นกว่า ๆ ขึ้นไปถึง 3-4 หมื่นบาท แล้วแต่ความแรงของเครื่องยนต์)

2. ต้องตระเตรียมเชื้อเพลิงไว้เพื่อใช้งาน โดยทั่วไปก็คือน้ำมันเบนซิน อ็อกเทน 91 (ยกเว้นประเภทเครื่องยนต์ 2 จังหวะ จะต้องมีน้ำมันออโต้ลูปด้วย) ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล แม้จะใช้แทนกันได้ แต่เมื่อน้ำมันชนิดนี้ถูกทิ้งอยู่ในเครื่องนาน ๆ อาจทำให้แหวน และท่อยาง มีอายุการใช้งานสั้นลง

3. สามารถตัดหญ้าได้อย่างอิสระ ไม่ต้องพะวงกับสายไฟ จึงทำให้งานเสร็จเร็ว โดยเฉพาะเมื่อบวกกับกำลังที่เหลือเฟือของเครื่องชนิดนี้ ทำให้นักตัดหญ้ามืออาชีพเลือกใช้เครื่องชนิดนี้กันโดยถ้วนหน้า

4. อะไหล่และการซ่อมบำรุงมักไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเครื่องยนต์เล็กที่ใช้กับเครื่องตัดหญ้าชนิดนี้ ซ่อมได้แทบทุกส่วน อะไหล่ถึงไม่มีของยี่ห้อนั้นโดยตรง ก็สามารถหายี่ห้ออื่นมาใช้แทนได้ ผิดกับเครื่องที่ใช้ไฟฟ้า ที่ผู้จำหน่ายมักไม่ค่อยสำรองอะไหล่ไว้นานนัก เพราะจะมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาแทบทุกปี

5. อายุการใช้งานยาวนาน อาจพูดได้ว่า ซื้อมาเครื่องเดียวใช้ไปจนตาย

6. ต้องการการซ่อมบำรุงตามสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การเปลี่ยนหัวเทียน การทำความสะอาดไส้กรองอากาศ การล้างคาบิวเรเตอร์ การถอดลับใบมีด จึงไม่เหมาะสำหรับสุภาพสตรี หรือพ่อบ้านที่ขาดทักษะในทางช่างเบื้องต้น

7. แม้จะตัดหญ้าได้เร็วและแรงดี แต่ด้วยความเทอะทะและน้ำหนักที่มากของตัวเครื่อง ทำให้ตัดหญ้าตามซอกมุม หรือบนพื้นที่เป็นเนินได้ไม่สะดวกเท่าเครื่องไฟฟ้า จึงเหมาะสำหรับสนามหญ้าที่ราบเรียบเป็นบริเวณกว้าง

กล่าวโดยสรุป เครื่องตัดหญ้าแบบรถเข็นใช้น้ำมันนี้ มีจุดเด่นเรื่องกำลังที่มีให้อย่างเพียงพอ รับมือกับหญ้ายาว ๆ ได้อย่างสบาย พ่อบ้านที่ไม่สู้มีเวลาตัดหญ้าอย่างสม่ำเสมออาจชอบ แต่ก็ต้องแลกกับการตระเตรียมน้ำมันอันเป็นเชื้อเพลิงสำคัญ และเสียงอันดังหนวกหูของมันบ้าง และอาจจะต้องดูแลเอาใจใส่บ้างตามกำหนดเวลา ก่อนซื้อเครื่องตัดหญ้าชนิดนี้ ผู้ใช้ควรถามตัวเองเสียก่อนว่า พร้อมจะรับภาระการดูแลรักษาเครื่องดังที่กล่าวมาแล้วหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจ หรือไม่พร้อม ก็เลี่ยงไปใช้เครื่องไฟฟ้าจะเป็นการดีกว่าครับ

เครื่องเล็มหญ้า ผู้ช่วยที่น่ามีติดบ้านไว้



ที่กล่าวมาเป็นการวิจารณ์ข้อดีข้อเสียโดยสังเขปของเครื่องตัดหญ้าชนิดต่าง ๆ ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดบ้านเรา แต่ยังมีเครื่องตัดหญ้าอีกแบบหนึ่ง อันที่จริงต้องเรียกว่าเครื่องเล็มหญ้ามากกว่า เป็นเครื่องที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ใช้เอ็นเหวี่ยงรอบแกนของมอเตอร์เป็นตัวตัดหญ้า ที่ขายในบ้านเราเห็นมีแต่แบบยืนตัด นับเป็นอุปกรณ์เสริมในการดูแลสนามหญ้าที่น่าซื้อหาติดบ้านไว้เป็นอย่างยิ่ง เพราะราคาไม่แพงนัก (ประมาณพันกว่าบาท บางยี่ห้ออาจอยู่ที่หลักร้อย)

ในการตัดหญ้าด้วยเครื่องแบบต่าง ๆ ทุกแบบที่กล่าวข้างต้น ปัญหาสำคัญที่มักพบเป็นประจำคือ รถตัดหญ้าไม่สามารถตัดตามแนวขอบสนาม หรือตามริมกำแพงบ้าน กำแพงรั้วได้ แต่เดิม ก็ต้องพึ่งกรรไกรตัดหญ้า หรือกรรไกรที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเล็มหญ้าตามขอบสนามหรือริมกำแพงบ้าน ซึ่งก็สะดวกดีระดับหนึ่ง



แต่หากบ้านใดมีสนามหญ้าอยู่ติดผนังบ้าน หรือรั้วบ้านเป็นระยะยาว ๆ การใช้กรรไกรนั่งเล็มแง๊บ ๆ จนหมดบ้านก็เป็นงานที่หนักหนาอยู่เหมือนกัน อาจต้องแง๊บ ๆ กันจนมือเกร็งเป็นตะคริวได้ พักหลังเครื่องเล็มหญ้าแบบใช้ไฟฟ้าจึงได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ราคาก็เลยลดลงจนทุกบ้านสามารถซื้อหามาใช้ได้



เครื่องเล็มหญ้ามีการทำงานที่ไม่ซับซ้อน อาศัยการหมุนควงของมอเตอร์ เหวี่ยงเอาเส้นเอ็นพลาสติกแทนใบมีดตัดหญ้า ความเร็วและแรงของการหมุนของเอ็น จึงสามารถตัดหญ้าที่อยู่ตามขอบสนาม หรือตามริมรั้วบ้านขาดจากกันได้



เอ็นของเครื่องชนิดนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเครื่องจะใช้สิ้นเปลืองไปเรื่อย ๆ ไม่เหมือนใบมีดที่ถอดออกมาลับใหม่ได้

การซื้อเครื่องชนิดนี้ ผู้เขียนจึงต้องกำชับให้ผู้ซื้อสอบถามราคาเอ็นอะไหล่ไว้เสียตั้งแต่ตอนซื้อ หากเห็นว่าเอ็นแพงมาก ก็อย่าได้หลวมตัวซื้อยี่ห้อนั้นกลับมา บางท่านอาจดัดแปลงเอาเอ็นขึงไม้เทนนิส หรือเอ็นตกปลามาใช้แทนได้ ก็ประหยัดเงินไปได้อีกอักโข

ด้วยราคาที่ถูกลงค่อนข้างมาก ประกอบกับประโยชน์ที่ได้รับนับว่าคุ้มค่า จึงเห็นว่า ทุกท่านที่คิดจะซื้อเครื่องตัดหญ้าไม่ว่าแบบใด ๆ น่าที่จะซื้อเจ้าเครื่องเล็มหญ้าชนิดนี้ติดมือกลับมาด้วย หรือในบางโอกาส ผู้ขายอาจแถมมาให้พร้อมเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าเป็นแพ็คเกจประหยัดเสียด้วยซ้ำ
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 4 มิถุนายน 2551
จำนวนผู้อ่าน : 42653 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
ซื้อคอนโดมือสองก็ต้องละเอียด (ดู 10712 ครั้ง)
การจัดเก็บค่าส่วนกลางยังเป็นปัญหาเรื้อรัง (ดู 9493 ครั้ง)
ขั้นตอนจดทะเบียนนิติบุคคล (ดู 10522 ครั้ง)
ประกันภัยบ้านต้องทำอะไรบ้าง (ดู 10120 ครั้ง)
คอนโดริมน้ำกำลังเป็นที่นิยม (ดู 9789 ครั้ง)
ใครดีใครร้ายในปีมะเส็ง 56 (ดู 9897 ครั้ง)
ฮวงจุ้ย ทิศหัวเตียงหรือหัวนอน (ดู 12702 ครั้ง)
ข้อดีของการซื้อบ้านจัดสรร (ดู 11529 ครั้ง)
จะซื้อบ้านจัดสรรฟังทางนี้ (ดู 4436 ครั้ง)
เมื่อนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรถึงทางตัน (ดู 4494 ครั้ง)
บ้านไม้สไตล์พรีแฟบ (ดู 5200 ครั้ง)
เลือกบ้านสำเร็จรูปแบบไหนดี (ดู 4586 ครั้ง)
นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร (ดู 4729 ครั้ง)
รู้ทันก่อนซื้อประกันภัยบ้าน (ดู 4369 ครั้ง)
จัดตั้งนิติบุคคลฯแล้วจะเป็นอย่างไร (ดู 4067 ครั้ง)
ตรวจสอบเบื้องต้นง่ายๆ หลังแผ่นดินไหว (ดู 3786 ครั้ง)
กฏหมายว่าด้วยรั้วบ้าน (ดู 4834 ครั้ง)
ขั้นตอนจัดตั้งนิติบุคคล บ้านจัดสรร (ดู 5004 ครั้ง)
เตรียมเสนอขยายสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (ดู 3856 ครั้ง)
เทรนด์ การซื้อขายบ้านมือสอง (ดู 4218 ครั้ง)
หน้าที่ของผู้ซื้อฯกับนิติบุคคลฯ (ดู 4510 ครั้ง)
สิทธิของเจ้าของห้องชุด (ดู 4410 ครั้ง)
บทบาทเจ้าของร่วมอาคารชุด (ดู 4035 ครั้ง)
ทำไมต้องจ่ายค่าส่วนกลาง (ดู 4712 ครั้ง)
ห้องไม่เรียบร้อย อย่ารับโอน (ดู 4697 ครั้ง)

Google
 
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน, Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
ติดต่อลงโฆษณา : ududee@msn.com
โทรศัพท์: 08-9180-5710
Copyright ©2005-2012 Hometophit All rights reserved