|
ใช้กระจกอะไรแต่งบ้านดี? |
ส่วนประกอบในบ้านที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะขาดเสียไม่ได้ คือกระจก ซึ่งนับวันจะยิ่งมีการใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการออกแบบของอาคารสมัยใหม่ ซึ่งเน้นทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้กว้างไกล และการนำแสงสว่างเข้ามาใช้ในอาคารมากขึ้นเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน
ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการการผลิต ทำให้มีกระจกหลากหลายให้เลือกใช้ เช่น กระจกทำความสะอาดตัวเอง กระจกที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ กระจกเปลี่ยนสี กระจกเรืองแสง กระจกลดแสงสะท้อน กระจกกันเสียง กระจกกันกระสุน และกระจกป้องกันไอน้ำ เป็นต้น
กระจกในบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ที่เราใช้กันทั่วไปก็จะเป็นกระจกใสธรรมดา (Float Glass) ความหนา 6 มม. บ้าง 8 มม. บ้าง แล้วแต่ขนาดของประตูหน้าต่าง เรามักจะเลือกใช้กันเฉพาะสีบางสีเป็นพิเศษเท่านั้น เช่น สีเขียวใส สีดำใส เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการเลือกกระจกอาจดูจากคุณสมบัติของกระจก เช่น
- กระจกที่มีแผ่นฟิล์มใสอยู่ตรงกลาง (Laminated Glass) เหมือนกับที่ใช้ในกระจกหน้าของรถยนต์ ราคาอาจจะแพงกว่ากระจกธรรมดาหลายเท่า แต่ไม่ต้อง เสียเงินมาติดเหล็กดัดให้ดูรกหูรกตาอีกต่อไป เพราะกระจกประเภทนี้ทุบให้ขาดออกจากกันยาก เนื่องจากมีแผ่นฟิล์มอยู่ตรงกลาง สามารถเลือกความหนาของแผ่นฟิล์มได้ หากค่าใช้จ่ายสูงเกินไป อาจเลือกใช้เฉพาะจุดที่เสี่ยงต่อหัวขโมยเท่านั้นก็ได้ เช่น บริเวณชั้นล่าง หรือระเบียง อีกทั้งแผ่นฟิล์มที่อยู่ตรงกลางยังช่วยลดแสง UV ที่จะทำให้เครื่องเรือนและวัสดุอื่นๆ ในบ้าน มีสีซีดจางหรือเหลืองได้ กระจกประเภทนี้สังเกตได้ง่ายๆ ผู้ผลิตจะมีการแสตมป์ตัวอักษรสีขาวไว้ที่มุมกระจกด้านใดด้านหนึ่ง และหากเราลองเอาเหรียญเคาะดู กระจกจะมีเสียงแน่น ไม่เป็นเสียงใสเหมือนเคาะแก้วน้ำ ทั้งนี้เพราะมีฟิล์มอยู่ตรงกลางนั่นเอง
- กระจกนิรภัย (Tempered Glass) ซึ่งมักใช้สำหรับห้องอาบน้ำครับ เพราะหากเราลื่นหกล้ม ชนกระจก กระจกจะแตกเป็นเม็ด และไม่เป็นอันตรายต่อเรามาก ความหนาที่เหมาะสมอยู่ที่ 10-12 มม. แนะนำให้ใช้สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือในโรงเรียนอนุบาล เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ การดูกระจกประเภทนี้ ผู้ผลิตจะมีการแสตมป์ตัวอักษรสีขาวไว้ที่มุมกระจกด้านใดด้านหนึ่งเช่นกัน หรือหากเรามองกระจกนี้ในมุมเอียงๆ เราจะเห็นแสงสะท้อน 7 สีรุ้ง และคล้ายๆ รอยไหม้ที่ผิวกระจก เนื่องจากกระจกได้ผ่านกรรมวิธีการอบด้วยความร้อนมา
- กระจกเงา คือการนำกระจกใสธรรมดามาเคลือบสารต่างๆ เช่น เงิน ทองแดง และเคลือบสารอื่นๆ อีกหลายขั้นตอน ข้อควรระวังก็คงเป็นเรื่องความชื้นที่อยู่ด้านหลังกระจก หากมีการป้องกันความชื้นด้านหลังที่ดี เช่น การรองด้วยแผ่นไม้อัด ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของกระจกได้นานหลายสิบปี
- กระจกกันเสียงและกันความร้อน Double Glass หรือ Insulated Glass กระจกประเภทนี้ราคาสูงมากแต่ป้องกันความร้อนและเสียงได้ดีมาก ผลิตโดยการนำกระจกสองแผ่นมาประกบกันแต่ให้มีระยะห่างระหว่างกัน 1-1.5 ซม. แล้วทำให้ช่องว่างนั้นเป็นสุญญากาศ กระจกประเภทนี้เหมาะสำหรับห้องนอนเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งคนที่ต้องการความเงียบสงัดในการนอนและนอนเปิดแอร์ตลอด กระจกประเภทนี้จะช่วยลดการเกิดไอน้ำเกาะที่กระจกด้วย มักจะนำมาใช้มากในการทำตู้แช่ หรือตู้ในซูเปอร์มาร์เก็ต กระจกบางชนิดราคาต่างกันมากกว่า 10 หรือ 100 เท่าก็มี ดังนั้นการเลือกใช้กระจกให้เหมาะสมกับห้องต่างๆ ในบ้านจึงจะช่วยให้ท่านประหยัดงบประมาณการก่อสร้างและการใช้พลังงานได้อย่างแท้จริง
|
|
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 15 มกราคม 2555
จำนวนผู้อ่าน : 1529 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน
นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน,
Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
|