คอนโด, บ้านจัดสรร, บ้านโครงการ,คอนโดมิเนียม,บ้านเดี่ยว, บ้านมือสอง,บ้านเช่า,ขายบ้าน, ที่ดิน, ตกแต่งบ้าน
อัพเดตล่าสุดวันที่ 6/7/2568
หน้าแรก | บ้าน คอนโด บ้านมือสอง | ประกาศ ซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดิน | สินเชื่อ | ตกแต่งบ้าน | เรื่องน่ารู้ | ไลฟ์สไตล์ | ลงประกาศซื้อขายฟรี
 
User Name
Password
เมนูหลัก
สมัครสมาชิก ลงประกาศ
ลืมรหัสผ่าน
ลงประกาศซื้อขาย
ค้นหาประกาศซื้อขาย
คู่มือซื้อขายบ้าน
ติดต่อสอบถาม

มารู้จัก Burn out syndrome

Burn-Out Syndrome ภัยเงียบของคนทำงาน
เหนื่อยล้า เพลียทั้งกายและใจเหมือนแบตเตอรี่หมด เพราะทำงานหามรุ่งหามค่ำแทบไม่ได้สนุสนานกับ
ชีวิต นี่คืออาการของคนที่ทำงานโอเว่อร์ อดีตดารานักเทนนิสชาวเยอรมัน อสเตฟฟี่ กราฟ ต้องเลิกเล่น
เทนนิสเมื่อเธอมีครอบครัวและลูกๆ ที่ต้องดูแล

ทั้งนี้ ผู้หญิงที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาทั้งในบ้านและนอกบ้านมักจะมีความเสี่ยงกับภาวะ Burn-Out
Syndrome ได้ง่าย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าทุกคนมีอาการ Burn-Out Syndrome ไม่มากก็น้อย สอบถาม
ผู้เชี่ยวชาญเพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ

Q : Burn-Out หมายถึงอะไร

          A : หมายถึงการทำงานหนักเกินไป และ ไม่ได้สัดส่วนกับการพักผ่อนจนเกิดอาการ เช่น สมองไม่แล่น
ความจำไม่ดี อ่อนเปลี้ยเพลียแรง นอนไม่หลับเหมือนเครื่องยนต์ที่วิ่งไม่หยุด จนทำให้เครื่องร้อนจนหม้อ
น้ำเดือด คือ ถ้าเป็นคนก็หมายถึงหมดไฟ ทำงานจนหมดพลัง ไม่มีประจุเก็บไว้ใช้งานอีก นักจิตวิทยาชาว
อเมริกัน เฮร์เบิร์ตเจ ฟรอยเดนเบอร์เกอร์ ได้นำชื่อ Burn-Out มาใช้ในการรักษาทางจิตเวชเมื่อปี
1974 ซึ่งก็คือโรคทางจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งมักเกิดกับคนที่ตั้งความหวังไว้สูงเกี่ยวกับตัวเองและต้องการความ
เพอร์เฟ็กตื จนก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางร่างกายและจิตใจ

Q : สัญญาณเริ่มแรกของโรค Burn-Out เป็นอย่างไร

          A :รู้สึกเบื่องาน นอนไม่หลับ เครียดไม่มีความสุข ไม่สนุกกับงาน คือ ต้องแยกจากโรคซึมเศร้าและโรค
เครียด ซึ่งมีอาการคล้ายๆ กัน แต่มีสาเหตุที่แตกต่างกัน อย่างโรคเครียดก็ต้องมีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น
เครียดจากเศรษฐกิจ เครียดเรื่องลูก กลัวภรรยาหรือสามีไม่ได้ดังใจ หรือภรรยากลัวสามีไปมีผู้หญิงอื่น
หรือผู้ชายอาจหึงหวงภรรยาสาวสวย ลูกเรียนไม่ดีก็ทำให้พ่อแม่กลุ้มใจ

           A : ส่วนอาการซึมเศร้าก็จะมีสาเหตุที่ทำให้เศร้า เช่น การสูญเสียไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพย์สินเงินทอง
หน้าที่การงาน ตำแหน่ง ฯลฯ อีกส่วนหนึ่งของโรคซึมเศร้าก็เกิดจากสารเคมีในสมองผลิตน้อยเกินไป
หรือจากกรรมพันธุ์ พอถึงเวลาเป็นก็จะเป็นขึ้นมา ส่วนโรค Burn-Out จะเกี่ยวกับการทำงานโอเว่อ
ร์เกินไป ใช้เวลาทำงานเยอะเกินไป คือมีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

Q : ทำไมจึงเกิดอาการ Burn-Out ได้


          A : เมื่อคนเราทำงานมากกว่าสัดส่วนนี้ได้ คือเราควรทำงานแล้วก็พัก เช่น เวลาทำงานหนึ่งชั่วโมง
เราก็ควรใช้สมอง 45 นาที แล้วก็พัก 10-15 นาที สมองก็จะได้พัก ได้ขจัดเมตาบอลิซึ่ม ของเสียต่างๆ
ออกไป หมุมเวียนเอาวัตถุดิบเข้ามาใหม่ ควรหมุมเวียนเช่นนี้ทุกๆ ชั่วโมง การงานก็เหมือนกันทั่วโลก
เค้าทำงานกัน 5 วัน พัก 2 วัน ในสัปดาห์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ถ้า Burn-Out นี่มันไม่ได้สัดส่วนที่
ควรเป็นตามที่ธรรมชาติต้องการ คือทำงานมากเกินไปจนไม่มีเวลาหยุดพัก หรือหยุดพักไม่เพียงพอก็จะ
หมดเรี่ยวแรงหมดพลัง

Q : ถ้าเราปล่อยให้ Burn-Out ไปเรื่อยๆ จะส่งผลอย่างไร

           A :ก่อให้เกิดโรคที่เป็นไปได้มากกว่า 100 โรค สุดท้ายก็ ก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคเกี่ยวกับหู
โรคหัวใจ หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต สัญญาณแรกก็คือหมดพลัง หมดความกระตือรือร้น เฉื่อยชา บางคนอาจ
เป็นโรคซึมเศร้าตามมาได้ หมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ความจำแย่ลง ขาดสมาธิ
หงุดหงิดง่าย ร่างกายอ่อนเปลี้ย ไม่ค่อยมีแรง นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ประสาทเครียด ความดันโลหิตสูง
มีโอกาสเป็นโรคติดเชื้อสูง ซึ่งส่วนมากคนที่เป็นโรค Burn-Out ก็มักหาทางออกปลอบจิตตัวเองด้วยการ
ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป กินยานอนหลับ กินอาหารมากเกินไป และสูบบุหรี่มากเกินไป

Q : เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเริ่มเป็น Burn-Out แล้วนะ

          A : เริ่มรู้สึกว่าการทำงานไม่เหมือนเดิม สมาธิในการทำงานและความตั้งใจในการทำงานต่างๆ ลดลง
มีอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่นความจำไม่ดี นอนไม่ค่อยหลับ ซึ่งต้องมีสาเหตุมาจากการทำงานที่โอ เว่อ
ร์เกินไป ไม่ได้หมายถึงสาเหตุอื่นๆ

Q : ผู้หญิงไทยก็น่าจะเสี่ยงกับการเป็น Burn-Out Syndrome เพราะต้องทำงานทั้งในบ้านและนอก
บ้าน วันเสาร์-อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุด


           Apo : ใช่ครับ จริงๆ แล้วคนไทยมักมีอาการ Burn-Out โดยไม่รู้ตัว เพราะคนไข้ที่มาพบจิตแพทย์ส่วน
ใหญ่มักเลยเถิดไปถึงโรคซึมเศร้า แล้วนอกจากนี้ สังคมและวัฒนธรรมไทยมีส่วนทำให้ผู้หญิงต้องยอมรับ
ต้องเงียบๆ หัวอ่อน ไม่มีปากเสียง โอกาสจะเข้าข่ายเป็น Burn-Out ก็จะสูง การที่ผู้หญิงต้องแบก
ภาระมากมาย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงเป็นโรคจิต โรคเครียด โรคประสาทเยอะกว่าผู้ชาย

          A : ทางจิตเวชผู้หญิงจึงมีมากกว่าผู้ชายสองเท่า บางโรคสามสี่เท่า ฉะนั้น คนไทยในสังคมเมืองจึงมี
โอกาสเป็น โรคนี้สูงมาก และมักเป็นกับคนวัยทำงานและกับวัฒนธรรมการทำงาน อย่างเช่นในประเทศ
ญี่ปุ่นทำงานกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2-3 ทุ่ม ด้วยเหตุนี้ ชายญี่ปุ่นจึงเข้าคลับบาร์หรือเล่นเกมหลังเลิก
งาน ไม่ตรงกลับบ้านเพราะเครียดกับงานมาก

Q : เราควรรักษาอาการ Burn-Out ของตัวเองอย่างไร


          A : ให้ความสมดุลกับจิตใจ เช่น ตรึกตรองว่าฉันได้พลังมาจากไหนแล้วฉันจะใช้พลังเพื่ออะไรบ้าง
คุณภาพชีวิตของฉันเป็นอย่างไร ระหว่าง 0 (แย่มาก) และ10 (ดีมาก) ปัจจัยใดที่ก่อให้เกิดความ
เครียดแล้ว ฉันจะหลีกเลี่ยงความเครียดได้อย่างไร ฉันใช้จ่ายเงินอย่างไร จุดมุ่งหมายก็คือการมีความ
สุขในชีวิตมากขึ้น เราควรใส่ใจกับร่างกายและจิตใจของตัวเอง

          A : ข้อแนะนำก็คือ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เช่น จ๊อกกิ้งหรือขี่จักรยาน หรืออกกำลังกายกับหมู่
คน เช่น เล่นวอลเลย์บอลและเทคนิคการผ่อนคลายอื่นๆ หรือการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น โยคะ

Q : แล้วจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากจิตแพทย์หรือไม่

          A : จริงๆ แล้วไม่จำเป็นก็ได้ แต่การได้พูดคุยกับจิตแพทย์ก็จะช่วยทำให้มองเห็นการแก้ปัญหาของ
ตัวองได้ การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเริ่มที่สมอง สิ่งสำคัญก็คืออย่าให้ขาดอารมณ์ขัน พึงระลึกไว้เสมอว่า
ไม่มีความหวังกับอดีต แต่มีความหวังกับอนาคตเท่านั้น



บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 19 มกราคม 2555
จำนวนผู้อ่าน : 1372 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
ที่มาของคำว่า กระดาษ (ดู 5526 ครั้ง)
คุณพอใจกับงานที่ทำอยู่แค่ไหน ? (ดู 4729 ครั้ง)
7 ไอเดีย แต่งห้องทํางาน (ดู 5073 ครั้ง)
ตำหนิแบบไหน ไม่ให้ลูกน้องเสียหน้า (ดู 5090 ครั้ง)
กระดาษ (ดู 4726 ครั้ง)
วิธีทำความสะอาดเครื่องต้มกาแฟ (ดู 4674 ครั้ง)
ประวัติของปากกาลูกลื่น (ดู 4792 ครั้ง)
ประวัติและการผลิต ดินสอ (ดู 7161 ครั้ง)
ประวัติความเป็นมาของ ยางลบ (ดู 5205 ครั้ง)
เครื่องถ่ายเอกสาร (ดู 5014 ครั้ง)
จัดฮวงจุ้ย บนโต๊ะทำงาน (ดู 5150 ครั้ง)
เครื่องใช้สำนักงาน (ดู 4858 ครั้ง)
ประวัติเครื่องถ่ายเอกสาร (ดู 5430 ครั้ง)
หมึกปากกาทำจากอะไร (ดู 5053 ครั้ง)
7 เคล็ดลับจัดโต๊ะทำงานแบบมืออาชีพ (ดู 5409 ครั้ง)
การปรับโต๊ะทำงานเพื่อสุขภาพ (ดู 4791 ครั้ง)
เมื่อลูกแม็กซ์หลุดเข้าไปในเครื่องส่งแฟกซ์ (ดู 4452 ครั้ง)
โต๊ะทำงานบอกนิสัย (ดู 4582 ครั้ง)
13 วิธีแก้วิกฤติโลกร้อนที่ออฟฟิค (ดู 4443 ครั้ง)
ราศีกับโต๊ะทำงาน (ดู 4576 ครั้ง)
ตำแหน่งโต๊ะทำงานที่เป็นมงคล (ดู 4924 ครั้ง)
รู้ธาตุออฟฟิศ พิชิตปัญหา (ดู 4641 ครั้ง)
เทคนิคพิชิตโรคของสาวทำงาน (ดู 4547 ครั้ง)
การจัดแบบห้องทำงานสำนักงาน (ดู 4799 ครั้ง)
.การจัดฮวงจุ้ยที่ดีสำหรับสำนักงาน (ดู 4561 ครั้ง)

Google
 
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน, Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
ติดต่อลงโฆษณา : ududee@msn.com
โทรศัพท์: 08-9180-5710
Copyright ©2005-2012 Hometophit All rights reserved