ด้วยการบีบ แกะ แคะ สะกิด หรือหายามาทา มากิน เพื่อให้หน้าใสไร้สิว
มีคำถามว่า สิวขึ้นหน้าแล้วจะไปหาหมอตอนไหนดี ? นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง บอกว่า ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า สิวเป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อย ทุกคนหรือแทบทุกคนเคยเป็นสิว แต่ทัศนคติของคนส่วนใหญ่ยังมองว่า สิวเป็นแค่ปัญหาความงาม ทำให้การรักษาสิวไม่ค่อยได้ผล หรือปล่อยปละละเลยจนทำให้โรคสิวกำเริบลุกลามมากจนเกิดแผลเป็นถาวร
ดังนั้นจึงควรมีทัศนคติที่ถูกต้องว่า สิวเป็นโรค ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นสิวทุกครั้งต้องพบแพทย์ เพราะโรคทุกชนิดก็มีหลายระดับความรุนแรง เช่น ถ้าเป็นหวัดไม่มากก็อาจแค่นอนพักก็พอ แต่ถ้าเป็นไข้หวัดแล้วมีไข้สูง ปวดเมื่อยมาก ก็อาจต้องมาพบแพทย์ ในกรณีสิวก็เช่นกัน ถ้าเป็นสิวไม่มากอาจซื้อยามาทาเองได้ โดยต้องอ่านฉลากยาโดยละเอียดก่อนใช้ แต่ถ้าเป็นสิวมากก็ควรพบแพทย์ โดยมีข้อแนะนำดังนี้
1. ควรไปพบแพทย์เมื่อใช้ยาทาสิวเองแล้วอาการไม่ดีขึ้น
2. เมื่อสิวอักเสบปวดบวมแดงมาก หรือสิวหายแล้วมักเป็นแผลเป็น
3. ผู้หญิงเป็นสิว ที่มีขนขึ้นตามใบหน้า หรือประจำเดือนผิดปกติควรพบแพทย์
4. ถ้าสิวเลวลง อักเสบบวมแดงมาก มีไข้ ควรพบแพทย์ทันที เพราะแสดงว่ามีการอักเสบติดเชื้อรุนแรง
5. ผู้ที่รู้สึกอายที่เป็นสิวหรือรู้สึกหดหู่ หรือสิวหายแล้วมักทิ้งรอยดำไว้นานมากก็ควรพบแพทย์
โดยทั่วไปแพทย์สามารถระบุชนิดของสิวจากการดู มีเพียงบางกรณีที่ต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ คือ ในรายที่สงสัยว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ผู้หญิงที่ขนดกดำ อ้วน ประจำเดือนผิดปกติเป็นประจำ เสียงห้าว ศีรษะล้านแบบผู้ชาย โรคสิวจากเชื้อแบคทีเรียกรัมลบ โรคสิวจากเชื้อยีสต์ และเนื้องอกของผิวหนังบางอย่างที่คล้ายสิว อาจต้องตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
ในการรักษาสิวนั้น แพทย์มักนัดผู้ป่วยโดยนัดมาตรวจซ้ำครั้งแรกใน 1-4 สัปดาห์ เพื่อสอบถามถึงวิธีการใช้ยาและผลข้างเคียง ต่อไปอาจนัดผู้ป่วยทุก 1-3 เดือน เพื่อปรับขนาดยาและดูผลการรักษา
หลังรักษาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ขึ้นไป ถ้าไม่ได้ผลหรือเลวลง จึงจะพิจารณาเปลี่ยนยา และหลังจากสิวยุบหมดแล้ว แพทย์จะให้ผู้ป่วยใช้ยาทาคุมไว้จนกว่าจะพ้นวัยที่เป็นสิว การทายากินยารักษาสิวควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร เท่านั้น
สำหรับการกินยากรดวิตามินเอ มักกินวันละครั้ง อาจเป็นเช้า กลางวัน หรือ เย็น โดยแนะนำให้กินพร้อมอาหารมื้อที่มีไขมันเพื่อเพิ่มการดูดซึม
ส่วนการกินยาปฏิชีวนะ ถ้าต้องกินวันละครั้ง ควรเลือกกินยาในเวลาเดิมทุกวัน การกินยาปฏิชีวนะถ้าต้องกินวันละ 2-3 ครั้ง ก็ต้องเว้นระยะห่างให้เหมาะสม เช่น กินยา เช้า และ เย็น หรือ เช้า กลางวัน และ เย็น ยาปฏิชีวนะบางตัวต้องกินตอนท้องว่าง ส่วนยาทานั้นให้ใช้ตามคำแนะนำเช่น ทาก่อนล้างหน้า ทาก่อนนอน
ผู้ป่วยโรคสิวหลายรายมักลืมทายา กินยา ขอแนะนำว่าให้ทายากินยาพร้อมกับการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การแปรงฟัน การแต่งหน้า การกินอาหาร ถ้าลืมกินยาปฏิชีวนะไป 1 วัน ก็ให้กินยาต่อตามปกติได้เลย โดยไม่ต้องกินเป็น 2 เท่า แต่ถ้าเป็นยากลุ่มกรดวิตามินเอ ถ้าลืมกินยาไป 1 วัน วันรุ่งขึ้นอาจกินเป็น 2 เท่าได้.