คอนโด, บ้านจัดสรร, บ้านโครงการ,คอนโดมิเนียม,บ้านเดี่ยว, บ้านมือสอง,บ้านเช่า,ขายบ้าน, ที่ดิน, ตกแต่งบ้าน
อัพเดตล่าสุดวันที่ 28/4/2567
หน้าแรก | บ้าน คอนโด บ้านมือสอง | ประกาศ ซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดิน | สินเชื่อ | ตกแต่งบ้าน | เรื่องน่ารู้ | ไลฟ์สไตล์ | ลงประกาศซื้อขายฟรี
 
User Name
Password
เมนูหลัก
สมัครสมาชิก ลงประกาศ
ลืมรหัสผ่าน
ลงประกาศซื้อขาย
ค้นหาประกาศซื้อขาย
คู่มือซื้อขายบ้าน
ติดต่อสอบถาม

การช่างไทยประเภทต่างๆ

การช่างไทยที่มีมาแต่อดีตนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ
          ๑. การช่างพื้นบ้านพื้นเมือง
          ๒. การช่างที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์และพุทธศาสนา
การช่างพื้นบ้านพื้นเมือง
          เป็นการช่างของชาวบ้านตามท้องถิ่นต่างๆ เป็นการช่างที่ผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพและดำรงชีวิตตาม สภาพแวดล้อม  ขนบธรรมเนียมประเพณี  และวัฒนธรรมของท้องถิ่น  มีกรรมวิธีการผลิต  การใช้วัสดุ และการสร้างรูปทรงตามแบบอย่างที่สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ  การช่างพื้นบ้านแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้  การทำเครื่องปั้นดินเผา  การทำเครื่องจักรสาน  การทอผ้าและการเย็บปักถักร้อยการแกะสลัก  การช่างโลหะ  การก่อสร้าง  การวาดภาพ  การปั้นรูปและลวดลาย  และการช่างประเภทอื่นๆ ได้แก่  การทำพาหนะพื้นบ้านการทำเครื่องเขิน  การทำเครื่องกระดาษ   การทำเครื่องหนัง  การทำเครื่องประดับ  การทำดอกไม้ไฟ และเชื้อปะทุ เป็นต้น

 



การทำเครื่องจักสาน จัดอยู่ในประเภทการช่างพื้นบ้านพื้นเมือง

การช่างที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์และพุทธศาสนา

          มีทั้งการช่างที่มีความละเอียดประณีตเพื่อประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้สำหรับ พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์   สิ่งของเครื่องใช้สำหรับพระภิกษุเฉพาะพระชั้นผู้ใหญ่หรือสิ่งของที่ถวายเป็น พุทธบูชาแก่พระพุทธศาสนา  ซึ่งมักประดับตกแต่งให้มีความสวยงามเป็นพิเศษ  ช่างที่ทำงานเหล่านี้จึงต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและได้รับการ ฝึกฝนการช่างประเภทต่างๆ มาแล้วเป็นอย่างดี ส่วนมากเป็นช่างหลวงที่มีหน้าที่ทำงานช่างต่างๆ ตามพระราชประสงค์ของพระมหากษัตริย์  ซึ่งประจำอยู่ในกรมช่างต่างๆ  แต่ละกรมจะมีช่างผู้ชำนาญการช่างประจำอยู่  การช่างของไทยที่สำคัญในกรมช่างหลวงมีดังนี้
๑. ช่างเขียน

          ถือเป็นแม่บทของการช่างทั้งมวล  ช่างต่างๆ จะต้องผ่านการเรียนและฝึกฝนการเขียนภาพระบายสี   การเขียนภาพร่าง   การเขียนภาพลงรักปิดทอง  ซึ่งช่างจะต้องฝึกฝนการเขียนภาพตามแบบแผนโบราณให้ครบ ๔ หมวด คือ  กนก  นารี  กระบี่  และคชะ
          กนก  คือ  การฝึกร่างลวดลาย  ให้รู้จักความประสานสัมพันธ์กันของเส้นที่ผูกรวมกัน
เป็น ลายไทย  โดยเฉพาะกนกแบบต่างๆ เช่น กนกสามตัว  กนกใบเทศ   กนกเปลว   ถือเป็นปฐมบทที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญก่อนที่จะทำการช่างอย่างอื่นต่อไป
          นารี   คือ  การเรียนรู้และฝึกฝนเกี่ยวกับการเขียนหน้ามนุษย์  เทวดา  นางฟ้า  พระ  และนาง  ซึ่งถือว่าเป็นภาพหลักของภาพไทย  เมื่อเขียนได้คล่องแคล่วดีแล้ว  จึงฝึกเขียนทั้งตัวในอิริยาบถต่างๆ ภาพเหล่านี้จะแสดงอารมณ์ด้วยกิริยา  ใบหน้าของตัวภาพจะไม่แสดงอารมณ์ดังนั้นจึงฝึกฝนเขียนตัวภาพไทยให้งดงามถูก ต้องตามแบบแผนของศิลปะไทย  นอกจากการฝึกเขียนตัวภาพหลักดังกล่าวแล้ว   ยังต้องฝึกการเขียนภาพกากหรือตัวภาพที่เป็นคนธรรมดาและการเขียนภาพจับสำหรับ เขียนเรื่องรามเกียรติ์ให้เกิดความชำนาญด้วย
         
กระบี่  คือ  การฝึกเขียนภาพอมนุษย์ต่างๆ ได้แก่  พวกยักษ์  วานร  เป็นต้น  ในการฝึกจะต้องฝึกจากภาพลิงหรือกระบี่เป็นอันดับแรก   เมื่อเขียนได้แม่นยำแล้วจึงฝึกเขียนภาพอื่นต่อไป  การฝึกเขียนภาพหมวดนี้จะเป็นประโยชน์ในการเขียนภาพเรื่องรามเกียรติ์
          คชะ คือ การฝึกเขียนภาพสัตว์สามัญและภาพสัตว์ประดิษฐ์ต่างๆ โดยเริ่มจากคชะหรือช้างซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่ก่อน แล้วจึงฝึกเขียนภาพสัตว์เล็กๆ ต่อไป

         
การช่างเขียนดังกล่าวถือว่าเป็น วิชาการช่างหลักของการช่างไทย  ซึ่งช่างส่วนใหญ่จะต้องเรียนรู้และฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ  ก่อนที่จะไปเป็นช่างเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์วิหาร  หรือประกอบการช่างอื่นต่อไป

 



ช่างเขียนต้องฝึกฝนการเขียนภาพตามแบบแผนโบราณให้ครบ๔ หมวด คือ :๑. กนก
๓. ช่างสลัก
          เป็นการช่างที่มาจากคำว่า "ช่างฉลัก" หมายถึง  ช่างสลักของอ่อน  เช่น สลักหยวกหรือฉลักกระดาษ  แต่เดิมเป็นการช่างที่ทำหน้าที่สลักหยวกหรือแทงหยวกสำหรับประดับเมรุ  ประดับพลับพลาชั่วคราว ซึ่งมักนำหยวกหรือกาบกล้วย  ฟักทอง  มะละกอ  มาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ เช่น  ลายฟันปลา  ลายฟันสาม  ลายแข้งสิงห์  สำหรับตกแต่งจิตกาธานหรือแกะสลักเป็นดอกไม้  เรียกเครื่องตกแต่งชั่วคราวเหล่านี้ว่า "เครื่องสด" เพราะเป็นการตกแต่งด้วยของสดนั่นเอง
          งานช่างสลักอีกอย่างหนึ่งคือ  การสลักกระดาษสี  โดยการฉลุหรือตอกด้วยตุ๊ดตู่ให้เป็นลวดลายสำหรับใช้ประดับอาคารต่างๆ


ช่างสลักจะสลักหยวกหรือแทงหยวก สำหรับประดับเมรุหรือประดับพลับพลาชั่วคราว

๔. ช่างหุ่น

          ได้แก่ การทำหุ่น ตั้งแต่การทำหุ่นด้วยกระดาษ  ไม้  เป็นของจำลองสิ่งต่างๆจนถึงการทำหุ่นเพื่อใช้ในการแสดง  เช่น  หุ่นใหญ่  หุ่นเล็ก  ซึ่งเป็นมหรสพของราชสำนักในอดีต

๕. ช่างปั้น

          การสร้างรูปต่างๆ ด้วยดินเหนียว  ปูน  ขี้ผึ้งหรือวัสดุอื่นให้เป็นเป็นรูปลอยตัว (round relief)  รูปนูน  การปั้นรูปต่างๆ ของช่างไทยสมัยโบราณมักปั้นพระพุทธรูป   พระพิมพ์รูปคน  รูปสัตว์  ด้วยดินเหนียวเป็นต้นแบบก่อนแล้วหล่อด้วยโลหะให้เป็นรูปที่ถาวร  ซึ่งการปั้นประเภทนี้ช่างปั้นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการหล่อด้วย  การสร้างรูปอีกประเภทหนึ่งของช่างไทยที่รวมอยู่กับการปั้น  ได้แก่   การปั้นเป็นดินดิบและดินเผา  มักปั้นเป็นพระพิมพ์  ตุ๊กตาต่างๆการปั้นหุ่นสำหรับปิดกระดาษเป็นหัวโขน เป็นต้น

๖. ช่างหล่อ

          ได้แก่ กรรมวิธีในการหล่อโลหะต่างๆ เช่น การหล่อสำริดเป็นสิ่งต่างๆ ตั้งแต่  พระพุทธรูป  เทวรูป  รูปสัตว์  ระฆัง  และสิ่งอื่นๆ ตามพระราชประสงค์  การหล่อโลหะของไทยมีแบบแผนเป็นของไทยโดยเฉพาะที่สืบต่อกันมาแต่โบราณ  ตั้งแต่กรรมวิธีในการสร้างรูปด้วยแกนทราย  การหุ้มขี้ผึ้ง  การสำรอกขี้ผึ้งซึ่งมีกรรมวิธีที่ต่างไปจากการหล่อโลหะแบบชาวตะวันตก
๗. ช่างรัก
          การช่างที่ต้องเกี่ยวข้องกับ "รัก"  ซึ่งเป็นยางไม้ที่ได้จากต้นรัก   ช่างไทยได้นำยางรักมาใช้ประโยชน์หลายอย่าง  โดยเฉพาะในงานการช่างนั้น  ช่างมักใช้รักเคลือบสิ่งต่างๆ เช่น การเคลือบภาชนะจักสาน หรือภาชนะกลึงที่เรียกว่า "เครื่องเขิน" ใช้รักตำเป็นพื้นสำหรับปิดทองแล้วเขียนลายที่เรียกว่า "ลายรดน้ำ"  มักเขียนตกแต่งบานประตู  บานหน้าต่าง  ตู้พระธรรมคัมภีร์ และอื่นๆ
 


ตู้พระธรรมลายรดน้ำ

๘. ช่างบุ

          การช่างที่มีอยู่ในกรมช่างสิบหมู่สมัยโบราณ  ช่างบุจะทำหน้าที่บุโลหะเข้ากับสิ่งต่างๆ เช่น บุแผ่นโลหะลงบนเจดีย์  บุแผ่นเงินหรือทองลงบนพระพุทธรูป เป็นต้น  นอกจากนี้ช่างบุยังรวมถึงช่างที่ทำภาชนะโลหะต่างๆ ด้วยการเคาะหรือบุโลหะบนแม่พิมพ์  เช่น การบุทองเหลือง  เงิน ทอง  เป็นขันหรือภาชนะต่างๆหมู่บ้านที่ทำภาชนะเครื่องใช้โลหะต่างๆ ด้วยวิธีการบุ มักเรียกว่า  บ้านบุ  ในสมัยโบราณหมู่บ้านนี้อยู่ใกล้ๆ วัดสุวรรณาราม  กรุงเทพมหานครหมู่บ้านช่างบุนี้บางทีก็เรียกชื่อหมู่บ้านตามประเภทของภาชนะ ที่ทำ  เช่น บ้านบาตร  เป็นหมู่บ้านทำบาตรพระซึ่งถือเป็นงานช่างประเภทช่างบุ  ปัจจุบันบ้านบาตรในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย  กรุงเทพมหานคร ยังมีการทำบาตรพระอยู่บ้าง
๙. ช่างมุก
          การช่างเก่าแก่ของไทยประเภทหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา  การประดับมุกจะต้องใช้เปลือกมุกฉลุเป็นลวดลายแล้วประดับลงบนสิ่งต่างๆ โดยมีรักเป็นพื้น  เช่น การประดับมุกบนบานประตูปราสาท  บานประตูและบานหน้าต่างโบสถ์  วิหาร จนถึงการประดับมุกลงบนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ  เช่น ประดับมุกบนเตียบสำหรับใส่อาหารของพระภิกษุ    การประดับมุกลงบนพาน  เครื่องดนตรี  โต๊ะ  เก้าอี้ เป็นต้น

 

ฐานตู้พระธรรมประดับมุกในพระมณฑปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
๑๐. การช่างเบ็ดเตล็ด

          ได้แก่ การช่างประเภทต่างๆ ที่เคยปรากฏเป็นกรมช่างในสมัยโบราณ เป็นการช่างสำหรับสร้างสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์และพระพุทธศาสนาในอดีตมากมายหลายประเภท  ที่สูญหายไปก็มากเพราะหมดความจำเป็นในการใช้สอยเช่น
         
          ช่างกระเบื้อง  การช่างเกี่ยวกับการทำเครื่องเคลือบดินเผา  โดยเฉพาะการทำกระเบื้องของหลวงสำหรับมุงหลังคาปราสาทราชวัง  วัดวาอาราม
          ช่างกระดาษ  การช่างเกี่ยวกับการฉลักหรือฉลุกระดาษเพื่อใช้ประดับพลับพลา  หรือพระเมรุของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์
          ช่างดอกไม้เพลิง  การช่างเกี่ยวกับการประดิษฐ์พลุ  ดอกไม้เพลิงต่างๆ สำหรับใช้ในงานพระราชพิธี

          นอกจากนี้ยังมีการช่างอื่นๆ อีก  เช่นช่างดีบุก  ช่างทอง  ช่างสนะ (ช่างทำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม)  การช่างเหล่านี้ได้สูญหายไปแล้วเป็นส่วนใหญ่
          การช่างของไทยที่เกิดขึ้นในอดีตแล้วพัฒนาเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาตามสภาพสังคม ขนบประเพณีและวัฒนธรรมแต่ละยุคแต่ละสมัยการช่างเหล่านี้เป็นมรดกทาง ภูมิปัญญาของช่างไทยที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยเป็นพื้นฐานของการช่างไท
ย  การช่างบางประเภทยังคงสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน  แสดงให้เห็นมรดกทางภูมิปัญญาของช่างไทยได้เป็นอย่างดี
         
          นอกจากการช่างของไทยแล้ว  ถิ่นที่อยู่ของช่าง คือ "หมู่บ้านช่าง" ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
        
          หมู่บ้านช่าง  มีทั้งในชนบทและในเมืองหลวง   โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครสมัยโบราณนั้น     เป็นศูนย์กลางในการผลิตหัตถกรรมหลายสิ่งหลายอย่างและมักทำรวมๆ  กันอยู่เป็นย่านๆดังที่ปรากฏชื่อย่านหรือหมู่บ้านที่ทำงานช่างหัตถกรรมอยู่ จนทุกวันนี้หลายแห่ง เช่น
          บ้านหม้อ อยู่ในเขตพระนคร  แขวงพระบรมมหาราชวัง  แต่เดิมคงเป็นหมู่บ้านผลิตหรือขายเครื่องปั้นดินเผา  ประเภทหม้อข้าวหม้อแกงดินเผา  โอ่ง  อ่าง  กระถาง และภาชนะดินเผาต่างๆ ทุกวันนี้ไม่มีจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาแล้วแต่ชื่อบ้านหม้อยังคงเรียกขาน กันอยู่
          บ้านบาตร อยู่ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายแขวงสำราญราษฎร์ ใกล้กับวัดสระเกศ เป็นย่านที่ทำบาตรพระมาแต่โบราณ  ทุกวันนี้ก็ยังมีทำอยู่บ้าง เป็นหมู่บ้านการช่างที่เก่าแก่โบราณมากแห่งหนึ่ง
          บ้านตีทอง อยู่แถวถนนตีทอง เขตพระนครแขวงเสาชิงช้า เป็นย่านที่ตีทองคำให้เป็นทองคำเปลวเพื่อใช้ปิดพระพุทธรูป  ปิดหน้าบันโบสถ์วิหาร  ใช้ทำลายรดน้ำ  ลายทอง และงานช่างศิลป์อื่นๆ ปัจจุบันยังมีการตีทองอยู่บ้างในบริเวณหน้าวัดและหลังวัดบวรนิเวศวิหาร
          บ้านพานถม  อยู่ในเขตพระนคร แขวงบ้านพานถม  ในสมัยโบราณเป็นแหล่งทำเครื่องโลหะและเครื่องถมที่สำคัญแห่งหนึ่ง 
          บ้านลานทอง อยู่ในเขตพระนคร แขวงบางขุนพรหม เป็นย่านที่เคยทำใบลานสำหรับใช้จารหรือเขียนคัมภีร์ที่พระใช้เทศน์  ทุกวันนี้ยังมีทำอยู่บ้าง
          บ้านช่างหล่อ  ปัจจุบันเป็นแขวงบ้านช่างหล่อ  เขตบางกอกน้อย เป็นแหล่งปั้นและหล่อพระพุทธรูปมาแต่โบราณ  ทุกวันนี้ยังมีการปั้นและหล่อพระพุทธรูปและรูปประติมากรรมต่างๆ ด้วยทองเหลืองและสำริดกันอยู่หลายบ้าน
          บ้านขันบุและบ้านพาน  เดิมอยู่ปากคลองบางกอกน้อย  เป็นแหล่งทำขันและพานโลหะเช่น  ขันทองเหลือง  ด้วยวิธีการบุ  จึงเรียกว่าบ้านบุ หรือบ้านขันบุ  ปัจจุบันไม่มีทำแล้ว
         บ้านครัว เป็นหมู่บ้านแขกจามที่อพยพเข้ามาในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และตั้งถิ่นฐานอยู่ริมคลองมหานาคและคลองแสนแสบ   ปัจจุบันอยู่กันเป็นชุมชนใหญ่ประมาณ ๖๐๐ ครอบครัวแต่เดิมชาวบ้านครัวมีความสามารถในการทอผ้าไหมได้งดงามเป็นที่รู้จัก กันดี  เช่น  ผ้าขาวม้า  ผ้าโสร่ง  ปัจจุบันการทอผ้าไหมที่บ้านครัวยังมีทออยู่บ้างแต่ไม่มากเหมือนสมัยก่อน

         
นอกจาก "ย่าน" หรือหมู่บ้านที่ทำงานช่างประเภทต่างๆ ในกรุงเทพมหานครในสมัยโบราณซึ่งบางแห่งยังทำงานช่างสืบต่อมาจนทุกวันนี้ แล้ว  ในจังหวัดต่างๆ ก็ยังมีหมู่บ้านหัตถกรรมหรือหมู่บ้านช่างที่มีการทำงานช่างหัตถกรรมกระจาย อยู่ตามภาคต่างๆ มากมายหลายแห่ง  บางแห่งก็เรียกชื่อหมู่บ้านตามประเภทของงานช่างที่ทำ เช่น บ้านหม้อ  บ้านดาบ  (หมู่บ้านทำมีดดาบ)  บ้านกระดาษ  บ้านดินสอ  หรือบางหมู่บ้านเป็นแหล่งผลิตงานหัตถกรรมหรือเป็นหมู่บ้านที่ทำงานช่าง คุณภาพดีเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่น บ้านหาดเสี้ยว  ตำบลหาดเสี้ยว  อำเภอศรีสัชนาลัย  จังหวัดสุโขทัย  เป็นแหล่งผลิตผ้าทอมือที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี  โดยเฉพาะผ้าซิ่นตีนจกและผ้าที่ทอเป็นลวดลายต่างๆ ล้วนสวยงามน่าใช้แทบทั้งสิ้น
         ลับแล  อำเภอหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแหล่งทอผ้าซิ่นตีนจกที่สวยงาม  ส่วนมากทอมาจากหมู่บ้านต่างๆ ในตำบลชัยจุมพล  ตำบลศรีนพมาศ  ผ้าที่ทอจากหมู่บ้านเหล่านี้มักเรียกกันว่า ผ้าลับแล
         บ้านพุมเรียง หมู่บ้านทอผ้ายกที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ  อยู่ในตำบลพุมเรียง  อำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ปัจจุบันยังมีการทอผ้าไหมและผ้ายกอยู่หลายหลังคาเรือน
         บ้านเขว้า หมู่บ้านในตำบลนาเสียว  อำเภอเมือง  จังหวัดชัยภูมิ  เป็นหมู่บ้านทอผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของภาคอีสาน
         บ้านนาหมื่นศรี  หมู่บ้านในตำบลนาหมื่นศรี  อำเภอเมือง  จังหวัดตรัง เป็นแหล่งทอผ้าพื้นเมืองของภาคใต้ที่สำคัญแห่งหนึ่ง
          เกาะยอ  เกาะที่มีฐานะเป็นตำบลหนึ่งในอำเภอเมือง  จังหวัดสงขลา  เป็นแหล่งผลิตผ้าพื้นบ้านพื้นเมืองที่สำคัญมาแต่โบราณ  โดยเฉพาะผ้าเกาะยอ  มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
         
แม่แจ่มและจอมทอง  ในจังหวัดเชียงใหม่เป็นแหล่งที่มีการทอผ้าพื้นบ้านพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง แห่งหนึ่งของภาคเหนือ โดยเฉพาะผ้าซิ่นตีนจกของแม่แจ่มนั้นมีลวดลายและสีสวยงามมาก นอกจากนี้ในหลายหมู่บ้านในจังหวัดลำพูนก็มีชื่อในการทอผ้ายกไหมและผ้าทอพื้น เมือง
         นอกเหนือไปจากหมู่บ้านทอผ้าพื้นเมืองในภาคต่างๆ ดังกล่าวแล้ว  ยังมีหมู่บ้านช่างที่ทำงานหัตถกรรมประเภทอื่นๆ  อีกมาก  เช่นหมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาที่บ้านเหมืองกุง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่  บ้านทุ่งหลวง  ตำบลทุ่งหลวง  อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย  บ้านด่านเกวียน ตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา  บ้านสทิงหม้อ ตำบลสทิงหม้ออำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เป็นต้น
         หมู่บ้านเครื่องจักสาน  มีทำกันหลายหมู่บ้านในทุกภูมิภาคของประเทศ เช่น  บ้านบางเจ้าฉ่าอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง  หมู่บ้านทำเครื่องจักสานในบริเวณอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรีหมู่บ้านทำเครื่องจักสานยานลิเพา  บ้านหมนตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นต้น
         หมู่บ้านเครื่องโลหะ ซึ่งมีการทำโลหะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ด้วยทองเหลืองและเหล็ก  เช่นการทำเต้าปูนและเครื่องใช้ทองเหลือง  บ้านปะอาวตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราช-ธานี  การตีเหล็กเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทมีด  จอบ  เสียม ขวาน ที่รู้จักกันในชื่อ หมู่บ้านอรัญญิก ที่บ้านต้นโพธิ์  ตำบลท่าช้าง  ตำบลสามไถ  อำเภอนครหลวง  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  การทำเครื่องถม ในบริเวณอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น
        หมู่บ้านเครื่องไม้แกะสลัก  เช่น  หลายหมู่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่  หลายหมู่บ้านในเขตอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน บ้านเมืองเก่า ตำบลเมืองเก่า  อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เป็นต้น
          อย่างไรก็ตามหมู่บ้านช่างที่ทำงานหัตถกรรมพื้นบ้านพื้นเมืองของไทยยังมีอีก มากมายหมู่บ้านเหล่านี้เป็นแหล่งสืบทอดการช่างของไทยที่สำคัญ   ทำให้การช่างต่างๆ ดำรงอยู่สืบมาจนทุกวันนี้
          เรื่องราวของช่าง  การช่าง และหมู่บ้านช่างของไทยเราที่มีมาแต่สมัยโบราณนั้น  เป็นสิ่งที่พวกเราควรภูมิใจเพราะช่างและการช่างของไทยช่วยให้เรามีสิ่งของ เครื่องใช้  บ้านเรือนพระราชวัง  วัด  ที่สวยงามเป็นของเรามาจนทุกวันนี้

                ดูเพิ่มเติมจากเรื่อง หัตถกรรมพื้นบ้าน เล่ม ๑๓


 

กระเบื้องมุงหลังคาปราสาทพระราชวังหรือวัด เป็นงานช่างที่ต้องอาศัยฝีมือของช่างกระเบื้องโดยเคลือบให้เป็นสีต่าง ๆ
๒. ช่างแกะ
          คือ การช่างเกี่ยวกับการแกะสิ่งต่างๆ  ผู้ที่จะเป็นช่างแกะจะต้องฝึกฝนการแกะโลหะ เช่น  แกะเงิน  แกะทอง  รวมถึงการแกะ "คร่ำ" ต่างๆ โดยเฉพาะช่างที่สังกัดในกรมช่างสิบหมู่จะต้องแกะได้ทั้งงานที่มีลวดลายที่ ละเอียดประณีต  เช่น  การแกะตราพระราชลัญจกร  ตราประจำตำแหน่ง  ตราประจำรัชกาล   ตรากฎหมายตราสามดวง  จนถึงงานขนาดใหญ่อย่างการแกะสลักไม้หน้าบัน โบสถ์วิหาร  การแกะลวดลายบนบานประตู  บานหน้าต่าง  ลวดลายตกแต่งตู้  และการแกะโขนเรือ-พระที่นั่งต่างๆ เป็นต้น
          คร่ำ คือ การตกแต่งโลหะเป็นลวดลายด้วยการฝังเงินและทอง  ฝังเงินเรียกว่า  คร่ำเงิน  ฝังทอง  เรียกว่า  คร่ำทอง  การแกะคร่ำจะใช้เครื่องมือปลายแหลมแกะโลหะที่จะนำมาคร่ำให้เนื้อโลหะฟู  แล้งฝังเส้นเงินหรือทองลงไป  แล้วย้ำให้แน่นแต่งผิวให้เรียบ  จะได้ลวดลายคร่ำตามชนิดของโลหะที่คร่ำ คือ เงินหรือทอง


ตราพระราชลัญจกร รัชกาลที่ ๗ ซึ่งช่างแกะจะต้องแกะลวดลายที่ละเอียดประณีต
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 26 มกราคม 2555
จำนวนผู้อ่าน : 1534 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
ที่มาของคำว่า กระดาษ (ดู 5124 ครั้ง)
คุณพอใจกับงานที่ทำอยู่แค่ไหน ? (ดู 4397 ครั้ง)
7 ไอเดีย แต่งห้องทํางาน (ดู 4711 ครั้ง)
ตำหนิแบบไหน ไม่ให้ลูกน้องเสียหน้า (ดู 4770 ครั้ง)
กระดาษ (ดู 4388 ครั้ง)
วิธีทำความสะอาดเครื่องต้มกาแฟ (ดู 4330 ครั้ง)
ประวัติของปากกาลูกลื่น (ดู 4429 ครั้ง)
ประวัติและการผลิต ดินสอ (ดู 5776 ครั้ง)
ประวัติความเป็นมาของ ยางลบ (ดู 4864 ครั้ง)
เครื่องถ่ายเอกสาร (ดู 4602 ครั้ง)
จัดฮวงจุ้ย บนโต๊ะทำงาน (ดู 4836 ครั้ง)
เครื่องใช้สำนักงาน (ดู 4464 ครั้ง)
ประวัติเครื่องถ่ายเอกสาร (ดู 4940 ครั้ง)
หมึกปากกาทำจากอะไร (ดู 4704 ครั้ง)
7 เคล็ดลับจัดโต๊ะทำงานแบบมืออาชีพ (ดู 5065 ครั้ง)
การปรับโต๊ะทำงานเพื่อสุขภาพ (ดู 4443 ครั้ง)
เมื่อลูกแม็กซ์หลุดเข้าไปในเครื่องส่งแฟกซ์ (ดู 4107 ครั้ง)
โต๊ะทำงานบอกนิสัย (ดู 4237 ครั้ง)
13 วิธีแก้วิกฤติโลกร้อนที่ออฟฟิค (ดู 4096 ครั้ง)
ราศีกับโต๊ะทำงาน (ดู 4263 ครั้ง)
ตำแหน่งโต๊ะทำงานที่เป็นมงคล (ดู 4511 ครั้ง)
รู้ธาตุออฟฟิศ พิชิตปัญหา (ดู 4340 ครั้ง)
เทคนิคพิชิตโรคของสาวทำงาน (ดู 4208 ครั้ง)
การจัดแบบห้องทำงานสำนักงาน (ดู 4469 ครั้ง)
.การจัดฮวงจุ้ยที่ดีสำหรับสำนักงาน (ดู 4195 ครั้ง)

Google
 
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน, Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
ติดต่อลงโฆษณา : ududee@msn.com
โทรศัพท์: 08-9180-5710
Copyright ©2005-2012 Hometophit All rights reserved