คอนโดฯ ในฝัน

สวยสไตล์สร้างสรรค์

 
 
 
 
       สไตล์นี้เป็นแบบไหน
       การตกแต่งสไตล์นี้ เป็นการตกแต่งให้น่าอยู่ ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่เน้นความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ดังนั้นใครที่ชอบตกแต่งแบบไหนก็ลองครีเอตกันดู โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สามารถมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากันได้ แล้วแต่สไตล์ใครล่ะค่ะ
      
       แต่งให้สวยด้วยหลายไอเดีย เช่น
      
       - ตกแต่งให้เป็นลายคลาสสิกแบบสร้างสรรค์ เช่น ลายตารางและลายทางก็ดูเข้าท่าที อาจเลือกใช้โซฟา หมอนอิง และโต๊ะที่มีลายตาราง แล้วตกแต่งใช้โคมไฟเป็นลายทาง ก็จะดูเข้าคอนเซ็ปต์กันดี ถ้าจะให้สวย ลายทางและลายตารางควรจะเป็นสีเข้ากัน เช่น สีโทนฟ้า-ขาว ก็จะช่วยให้บรรยากาศดูผ่อนคลายและเป็นกันเองยิ่งขึ้น หรือจะเลือกโทนสีตามใจชอบก็ได้ แต่น่าจะใช้โทน 2 สีจะดูสวยกว่า
      
       - การตกแต่งสามารถเล่นลวดลายได้ โดยอาจเล่นขนาดของลวดลาย แต่ดูแล้วต้องสบายตา อาจลองทำปลอกหมอนอิงประดับห้องรับแขกด้วยลวดลายต่างๆ กันไป อาจจะเป็นลวดลายที่เข้ากัน หรือต่างกันก็ได้ แต่ดูแล้วต้องเป็นลายที่เข้ากันจะได้ไม่หลุดคอนเซ็ปต์ เช่น หมอนอิงลายพิมพ์ดอกไม้ จะช่วยลดความกระด้างของรูปทรงเรขาคณิตได้
      
       - ส่วนใครที่อยากจะทาสีลายทาง หรือลายตารางบนฝาผนังห้อง มีเคล็ดลับตีขอบเส้นด้วยการใช้กระดาษกาวชนิดไม่เหนียวมาก เวลาทาสีแล้วดึงกระดาษกาวออกจะช่วยดึงออกได้ง่ายและสีไม่หลุดลอกติดมาด้วย
      
       - ถ้าไม่ชอบลายตารางหรือลายทาง แต่คุณมีรสนิยมชอบเก็บของตกแต่งและผลงานศิลปะที่สวยเก๋ไม่เหมือนใคร สามารถเอาของตกแต่งเหล่านี้มาสร้างสรรค์ห้องให้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครได้ เช่นเครื่องเรือนที่มีหลากหลายสไตล์ เช่น ตู้สมัยทศวรรษ 1960 ประตูสีฟ้าสดใส มาผสมผสานกับสีสันสดใสของห้อง จะช่วยเติมเสน่ห์ให้กับห้องได้ดี หรือใครมีเครื่องเรือนแปลกๆ ก็เอามาโชว์ได้เต็มที่ เพราะเราเน้นสร้างสรรค์ แต่เครื่องเรือนชิ้นอื่นๆ ก็ควรอยู่ในคอนเซ็ปต์เดียวกัน ห้องจะได้ไม่หลุดคอนเซ็ปต์
      
       - ส่วนห้องน้ำ ลองตกแต่งด้วยเฉดสีสดใส โดยเครื่องสุขภัณฑ์ควรใช้เป็นสีขาว เพื่อพื้นที่ที่เหลือจะเล่นสีสันได้ อาจทาสีห้องน้ำด้วยเฉดสีชมพูแดง ตัดกับสีม่วงและสีน้ำเงิน และทาสีกระเบื้องและกรอบกระจกห้องน้ำให้สีเข้ากับผนัง การทำห้องน้ำให้สีสันสดใสก็ทำให้ห้องน้ำดูมีลูกเล่น และสร้างสรรค์ เหมาะสำหรับคนวัยมัน และหัวสร้างสรรค์ที่สุดเลยล่ะค่ะ

 
  
 
 
       ห้องแบบ Studio ตกแต่งแบบไหนเหมาะ
       ห้อง Studio เป็นห้องขนาดเล็ก ขนาดกำลังดี สามารถดูแลได้ง่าย และปรับเปลี่ยนได้อย่างสบาย เป็นการอาศัยแบบ Studio Living ซึ่งเป็นห้องเดียว มีการจัดพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นสัดส่วน ไม่มีกั้นห้องแยกออกไป โดยอาจใช้ฉากกั้นหรือเฟอร์นิเจอร์กั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว ดังนั้นใครที่สนใจอยากจะจัดห้องแบบนี้ต้องจัดวางผังให้ถูกวิธี ห้องจึงจะโปร่งโล่ง และเป็นส่วนตัวมากขึ้น
      
       การอยู่แบบ Studio Living ช่วยให้เราสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างในพื้นที่เดียวกันได้ ดังนั้นก่อนที่คุณจะจัดห้องให้เป็นสไตล์นี้ต้องพิจารณาตัวเองดังนี้
      
       - ลองวาดแผนผังห้องลงในกระดาษ อยากได้ห้องแบบไหน หรือจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนไว้มุมไหนก็วาดลงไปในกระดาษก่อน เพื่อว่าเราจะได้เห็นภาพรวมว่าจะจัดห้องแบบไหน การมีแผนผังไว้ในมือ เวลาจะเคลื่อนย้ายข้าวของก็จะได้ไม่ลำบาก และช่วยให้จัดห้องได้ง่ายขึ้น
      
       - สำหรับใครที่อยากกั้นห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่ควรกั้นด้วยผนัง เพราะยิ่งจะทำให้ห้องแคบขึ้นไปอีก อาจเลือกใช้ฉาก ม่าน หรือบานเฟี้ยม กั้นในพื้นที่ต้องการความเป็นส่วนตัวจะดีกว่า
      
       -ม่านที่ใช้ อาจเลือกใช้รางม่านแบบที่โรงพยาบาลใช้กั้นแต่ละเตียงของคนไข้ เพราะใช้สะดวกดี เวลาต้องการความเป็นส่วนตัวควรก็รูดม่านปิด เวลาไม่ใช้ก็เปิดม่านออกรูดเก็บไว้ด้านข้าง จะช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น
      
       -เฟอร์นิเจอร์ควรเป็นแบบเอนกประสงค์ หรือใช้งานได้มากกว่า 1 อย่าง เช่น ตู้โชว์ อาจทำเป็นชั้นวางทีวี หรือตู้เก็บของไปด้วยในตัว หรือจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ เช่น เก้าอี้แบบพับเก็บได้
      
       - เลือกวางเฟอร์นิเจอร์ในสถานที่ที่เหมาะสม เช่น วางโต๊ะไว้ในตำแหน่งที่สามารถเป็นได้ทั้งโต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะนั่งเล่น โดยเลือกใช้งานตามแต่โอกาส แต่จะให้ดี เลือกนั่งพื้น และใช้โต๊ะพับก็เข้าท่าดี เวลาจะใช้ค่อยยกโต๊ะพับออกมา เป็นการประหยัดเนื้อที่
      
       - จริงๆ แล้วเฟอร์นิเจอร์แบบบิลต์อิน เหมาะสำหรับห้องแบบ Studio มาก เพราะเป็นการจัดการพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เป็นประโยชน์ดีกว่าใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว แต่การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิลต์อินควรวางแผนให้ดีว่าจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบไหนบ้าง ควรออกแบบให้ขนาดพอดีกับข้าวของเครื่องใช้ จะช่วยให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นการจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
      
       -เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบโปร่งบาง จะช่วยให้ห้องดูโล่ง และไม่ทึบ นอกจากนี้แล้วการใช้โทนสีอ่อนๆ หรือจัดไฟให้สว่างเพื่อให้ห้องดูสว่างไสวจะช่วยให้ห้องน่าอยู่ยิ่งขึ้น
      
       ****************
      
       สวยสไตล์ร่วมสมัย

 
 
 
 
       สไตส์นี้เป็นแบบไหน
       การตกแต่งคอนโดฯ สไตล์ร่วมสมัยนั้นเป็นการตกแต่งที่ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว เพราะเป็นการตกแต่งที่ผสมผสานเอารูปแบบหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน เช่น การผสมผสานระหว่างรูปแบบของตะวันตกกับตะวันออก, การตกแต่งแบบคลาสสิกให้เข้ากับแบบสมัยใหม่ เป็นการตกแต่งเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้สอย ดังนั้นรูปแบบการตกแต่งนี้เราสามารถเลือกใช้เครื่องเรือนได้หลากหลาย สามารถประยุกต์เอาเครื่องเรือนนั้นมาเข้ากับเครื่องเรือนนี้ โดยดูความสอดคล้องของรูปทรงหรือสีสัน โทนสีที่ใช้นิยมใช้สีอ่อนหวาน หรือสีที่ดูอบอุ่นหน่อย

 
 
 
 
       สนใจอยากแต่งห้องสไตล์ร่วมสมัย มีไอเดียแนะนำ
      
       - สำหรับใครที่ชอบตกแต่งด้วยโทนสีแบบกลางๆ อาจตกแต่งเพิ่มให้เก๋ด้วยลวดลายโทนสีสองสี จะช่วยให้ห้องดูมีรสนิยมแบบเรียบง่าย ดูสบายๆ จากนั้นใช้เฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือนแบบตะวันออกจะช่วยให้ห้องมีสไตล์มากขึ้น โดยเลือกใช้เครื่องเรือนแบบตะวันออกสีไม้เข้ม และไม้ไผ่ ซึ่งปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายๆ ทั่วไป เหมาะกับการตกแต่งในบรรยากาศเป็นกันเอง และเป็นสไตล์การตกแต่งแบบร่วมสมัย
      
       - ถ้าต้องการเพิ่มลวดลาย ตกแต่งหมอนอิงให้มีลวดลายที่ว่านี้ได้โดยใช้เศษผ้ามาทำ เพราะใช้จำนวนเนื้อผ้าไม่เยอะมาก สามารถหาซื้อได้จากร้านตกแต่งในราคาพิเศษ
      
       - ส่วนเก้าอี้และโต๊ะกลางสีใช้สีโทนส้มจะช่วยให้บรรยากาศดูอบอุ่น ผสมผสานกับเครื่องเรือนไม้สีเข้ม จะช่วยให้ห้องสวยและมีสไตล์มากขึ้น
      
       - ทาสีผนังด้วยสีเทาเข้มอมน้ำตาล ซึ่งเป็นสีเฉดกลาง จากนั้นเลือกใช้พรมสีขาวจะช่วยให้ห้องดูสว่างและอบอุ่น
      
       - ส่วนห้องน้ำถ้าต้องการให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นเลือกใช้สีอ่อนจะดูเหมาะสมที่สุด ถ้าสีขาวอาจทำให้รู้สึกเยือกเย็นเกินไป เลือกใช้สีครีมเวิร์กสุด ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ควรใช้เฉดสีเดียวกันทั้งห้อง จากนั้นใช้พื้นไม้และมู่ลี่จะช่วยเพิ่มสีสันแบบธรรมชาติ และลดโทนสีกลางได้เป็นอย่างดี
      
       - มู่ลี่ในห้องน้ำ ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้มู่ลี่ไม้จะดูเข้ากับสไตล์ร่วมสมัย ถ้าห้องน้ำคุณเล็กแคบ สามารถเลือกใช้มูลี่แบบเวนิสที่มีลักษณะเป็นมู่ลี่ไม้ สามารถปรับแสงได้ ใช้งานสะดวก

 
 
 
 
       ตกแต่งห้องนอนยังไงดี?
        - ก่อนจัดห้อง พิจารณาดูก่อนค่ะว่าขนาดพื้นที่ใช้สอยมีจำนวนมากน้อยเท่าไหร่ โดยเฉพาะคอนโดฯ ที่มีพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วน เช่น ห้องนอน ควรจัดให้เครื่องใช้ไม้สอยลงตัวกับขนาดห้องค่ะ โดยแบ่งสัดส่วนเครื่องเรือนของห้องนอนและห้องนั่งเล่นให้ลงตัว สัดส่วนพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ห้องจะได้ดูสวยงาม น่าอยู่ค่ะ
      
        - ส่วนห้องนอนมีขนาดเล็ก พื้นที่จำกัด ก็ควรเลือกเครื่องเรือนที่มีขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก และใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น โต๊ะทำงานในห้องนอนอาจปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ ส่วนเตียงนอนอาจเลือกใช้เตียงที่พับเก็บเป็นโซฟา หรือเตียงที่สามารถดึงออกมาเป็น 2 เตียงได้ ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีค่ะ
      
        - การจัดวางเครื่องเรือนควรให้เหมาะสม เช่น วางเตียง โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า ให้ชิดติดผนังด้านทึบ จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
      
        -การจัดห้องนอนที่เหมาะสม ควรจัดเตียงให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดก่อนที่จะจัดเครื่องเรือนชิ้นอื่น จะช่วยให้จัดห้องได้ง่าย ห้องนอนที่จัดเรียบแบบโล่ง เน้นสีสะอาดสะอ้าน ทำให้เนื้อที่ดูกว้างกว่าความเป็นจริง
      
        -ส่วนเครื่องเรือนอื่นๆ ควรจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่สอดคล้องกับการใช้งาน เช่น ส่วนพักผ่อนจัดให้อยู่ใกล้ระเบียง ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ใกล้กับห้องน้ำ เวลาใช้งานก็สะดวกมากขึ้น หรือจะจัดให้ตู้เสื้อผ้าซ่อนอยู่ในผนังที่ต่อเนื่องไปห้องน้ำก็เข้าท่าที เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบบิลต์อินสวยเก๋ทีเดียวค่ะ
      
       ************
      
       สวยสไตล์โมเดิร์น

 
 
 
 
       สไตส์นี้เป็นแบบไหน
      
        การตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เป็นรูปแบบการตกแต่งแบบสมัยใหม่ เน้นเส้นสายเชิงเรขาคณิต และตัดทอนรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนออกไป เหลือไว้แต่เพียงความเรียบง่าย เครื่องเรือนที่ใช้ก็เน้นรูปทรงแบบง่ายๆ ทันสมัยด้วยเส้นสายเพียงไม่กี่เส้นก็สวยได้ในสไตล์โมเดิร์น เครื่องเรือนที่ใช้เน้นโชว์เนื้อแท้ของวัสดุ เช่น วัสดุมันวาวประเภทโลหะ หรือวัสดุผิวด้าน ใส โทนสีที่ใช้มักเป็นสีดำ ขาว เทา หรือโทนสีสดใสไปเลย

 
 
 
 
        สนใจอยากตกแต่งสไตล์โมเดิร์นขอแนะนำ
      
       - เครื่องเรือน หรือของตกแต่งที่เป็นวัสดุประเภทมันวาว เช่น กระจก โลหะ ผิวเคลือบ หรือขัดเงา นอกจากจะช่วยให้ห้องคุณเป็นแบบสไตล์โมเดิร์นแล้ว ยังช่วยให้ห้องของคุณดูหรูหรา และเครื่องเรือนนี้จะช่วยสะท้อนแสงไปทั่วห้อง ทำให้บรรยากาศห้องดูสว่างไสวและโปร่งสบาย
      
       - เครื่องเรือนที่ใช้ อาจเลือกเครื่องเรือนที่ทำด้วยฝ้าเพราะดูมีรสนิยม ผิวสะท้อนของกระจกจะสะท้อนแสงให้บรรยากาศดูสว่างมากขึ้นกว่าเดิม
      
       - ห้องน้ำสามารถเลือกใช้โทนสีดำ ขาว ครีม โดยผนังสีครีมจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ดูนุ่มนวลกว่าสีขาวบริสุทธิ์ ส่วนผนังด้านล่างใช้กระเบื้องเคลือบที่มีผิวสัมผัส ส่วนด้านบนใช้กระเบื้องผิวด้าน โดยพื้นของห้องน้ำอาจตกแต่งให้เป็นพื้นลายแบบหมากรุก ใช้กระเบื้องสีขาว- ดำตัดกัน จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ของห้อง
      
       - ส่วนเครื่องสุขภัณฑ์ของห้องน้ำ อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ อาจเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีเส้นสายเรียบ ผิวโค้งมนลื่นไหลอย่างอิสระตัดกับพื้นทรงเรขาคณิต
      
       วิธีตกแต่งห้องครัว
       แนะนำ
       - เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ห้องครัว หรือเคาน์เตอร์ครัวที่สามารถบรรจุอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน เช่น เตาอบ เตาปรุงอาหาร เครื่องดูดควัน เครื่องซักผ้า หรืออ่างล้างจาน จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก นอกจากนั้นเพิ่มตู้ลอยติดผนังเหนือเคาน์เตอร์ไว้เก็บเครื่องปรุงหรืออุปกรณ์ทำอาหาร
      
       - ทำที่คว่ำจานติดผนังเหนืออ่างล้างจาน ช่วยให้มีพื้นที่สำหรับคว่ำจาน และเป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้คุ้มค่า
      
       - เหนือเคาน์เตอร์ครัวอาจติดราวสเตนเลสสตีลบนผนังสำหรับแขวนตะหลิว ทัพพี รวมถึงวางขวดเครื่องปรุง
      
       - กั้นพื้นที่ห้องครัวให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยการใช้มูลี่จะดีกว่าผ้าม่าน เพราะมูลี่จะไม่เก็บกลิ่น นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมปริมาณแสงจากภายนอกได้
      
       - ผนังบริเวณเคาน์เตอร์ควรปูด้วยกระเบื้องจะดีกว่า เพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าผนังปูน

 
 
 
 
       การตกแต่งห้องนอนที่มีเนื้อที่แคบ
      
        สำหรับคอนโดฯที่มีห้องนอนไม่ใหญ่มากนัก เรามีเคล็ดลับสำหรับการตกแต่งห้องนอนมาฝากค่ะ
      
       - ใช้ม่านกรองแสงประเภท Vertical Blind หรือ Slim line เพื่อให้ห้องดูสะอาดตา ไม่รกรุงรัง และดูกว้างมากขึ้น
      
       - สำหรับห้องนอนไหนที่ต้องการให้มีโต๊ะทำงานในห้องนอน อาจเลือกใช้โต๊ะทำงานที่สามารถปรับให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งด้วยได้ จัดว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 1 อย่าง ประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลยล่ะค่ะ
      
       - ถ้าอยากให้ห้องดูมีระยะกว้างกว่าความเป็นจริง สามารถติดไฟซ่อนหลังหลืบหัวเตียงได้ เวลามองจะดูคล้ายกับว่าหลังผนังเตียงมีพื้นที่ต่อเนื่องออกไป
      
       - ห้องควรเน้นตกแต่งแบบเรียบง่าย ดูโปร่งโล่ง ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น จะทำให้ห้องดูสะอาดตา
      
       *************
      
       สวยสไตล์คันทรี

 
 
 
 
       สไตส์นี้เป็นแบบไหน
      
       การตกแต่งสไตส์แบบนี้จะช่วยให้บรรยากาศบ้านดูอบอุ่นและผ่อนคลาย เป็นการสร้างความอบอุ่นในบ้าน สานสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในบ้านได้ดีค่ะ
      
       โดยการตกแต่งสไตล์คันทรีนี้เป็นลักษณะตกแต่งแบบชนบทในแต่ละประเทศ ดังนั้นสไตล์การตกแต่งจึงแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่เน้นการใช้วัสดุและของตกแต่งในท้องถิ่นที่เป็นแบบธรรมชาติ ดังนั้นใครที่อยากตกแต่งสไตล์คันทรีก็ลองไปคิดดัดแปลงดูได้ค่ะว่าอยากแต่งห้องเป็นพื้นเมืองประเทศไหน จากนั้นก็แต่งห้องให้เข้ากันเป็นคอนเซ็ปต์เหมือนกันตามแบบสไตล์คันทรีที่เลือกไว้ เพียงเท่านี้ก็จะได้ห้องสวยเก๋สไตล์คันทรีแล้วค่ะ
      
       สำหรับใครที่สนใจ ขอแนะนำไอเดีย ดังนี้ค่ะ
       -เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์พื้นบ้านที่หาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป เช่น เฟอร์นิเจอร็ที่ทำจากหวายก็เข้าท่าดี อาจเลือกตกแต่งห้องรับแขกให้มีโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ และชั้นหนังสือ ชั้นวางทีวีให้เป็นหวายทั้งหมด ถ้าหากคุณชอบโทนสีสดใส ให้ตกแต่งโซฟาด้วยหมอนอิงรูปตารางสดใส มีแจกันทรงสูงวางอยู่ข้างชั้นทีวีประดับประดาด้วยดอกไม้แห้งสีสดใสก็ได้ การใช้โทนสีแบบธรรมชาติจากหวายตัดกับโทนสีสดใสจะทำให้ห้องมีบรรยากาศเป็นสไตล์คันทรีได้อย่างน่าอยู่เลยล่ะค่ะ
      
       - ส่วนใครที่ชอบโทนสีแบบสบายๆ อาจเลือกใช้ของตกแต่งเป็นโทนสีอ่อนๆ ก็ได้ เช่นสีฟ้าอ่อนๆ สีเหลืองอ่อน หรือสีครีม จะช่วยให้ห้องดูบรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น
      
       -ด้านใครที่ชอบเฟอร์นิเจอร์ไม้ อาจเลือกตกแต่งโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นสำคัญ โดยใช้ไม้สนมาทำเป็นเครื่องเรือน อุปกรณ์ และปูห้องด้วยไม้ก็สวยเก๋ไม่เบาเลยล่ะค่ะ โดยเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ถ้าทาสีด้วยสีน้ำตาลอมแดงจะช่วยให้ห้องมีชีวิตชีวา และบรรยากาศผ่อนคลายแบบบ้านไม้ซุง
      
       -ห้องที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ตกแต่งควรหาอุปกรณ์ตกแต่งเป็นวัสดุไม้เหมือนกันกับเครื่องเรือน เพื่อให้คอนเซ็ปต์การตกแต่งห้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าจะให้สวยทาผนังห้องด้วยโทนสีเอิร์ทโทนจะเพิ่มความอบอุ่นให้กับเครื่องเรือนไม้และพื้นไม้ได้ดีค่ะ
      
       -ตกแต่งห้องด้วยภาพติดผนังรูปธรรมชาติ หรือภาพที่ใช้เน้นสีโทนเข้ม เช่น สีน้ำเงิน หรือน้ำตาล อาจจะมีสีแซมที่ดูแล้วสดใส มีชีวิตชีวา จะทำให้ห้องมีบรรยากาศเป็นแบบคันทรีมากขึ้น
      
       - ห้องไหนอยากปูพรม อาจเลือกใช้พื้นผิวแบบถักทอ หรือแบบขนห่วงก็ได้ก็ดูสวยดี หรือจะเลือกพรมที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติก็ได้ เช่น ใยมะพร้าว หรือหญ้าทะเล แนะนำว่าเลือกพรมที่เป็นสีโทนกลางๆ จะดีกว่าโทนสีเข้ม หรือสีสว่าง เพราะสองสีนี้เกิดรอยเปื้อนได้ง่ายค่ะ
      
       - ส่วนห้องน้ำ ตกแต่งด้วยไม้กระดานและผนังไม้ก็ดูเข้ากันดีค่ะ เลือกทาสีให้เป็นโทนสีครีมจะดูโปร่งสบายมากขึ้น เครื่องสุขภัณฑ์ที่ใช้เลือกเป็นสีขาวจะดูเหมาะกันดีกับโทนสีครีม ตกแต่งตู้เก็บของอุปกรณ์อาบน้ำให้เป็นตู้ไม้สีครีม ทาสีทั้งภายนอก ภายใน เพื่อให้เข้ากับสีสันของห้อง
      
       ************
      
       สวยสไตล์คลาสสิก

 
 
 
 
       สไตล์นี้เป็นแบบไหน
        การตกแต่งสไตล์คลาสสิกเป็นรูปแบบที่ผสมผสานความงามในยุคอดีต เช่น กรีก โรมัน อียิปต์ หลุยส์ เป็นการตกแต่งที่เน้นความหรูหรา มีรสนิยม พิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุ เช่น การใช้โทนสีอ่อนหวาน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งด้วยบัวที่มีลวดลายวิจิตรสวยงาม หรูหรา หรืออาจเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ดูแล้วสวยแบบสง่างามก็ได้
      
        นอกจากนี้แล้ว ห้องที่มีกลิ่นอายของความเก่าแก่ ยังจัดว่าเป็นการตกแต่งสไตล์คลาสสิก ชอบแบบไหนก็ลองเลือกแต่งดูค่ะ
      
        อยากตกแต่งสไตล์คลาสสิก มีหลากหลายไอเดียขอแนะนำ
      
        - ตกแต่งห้องนั่งเล่นให้เป็นสไตล์คลาสสิกดู ถ้าหากชอบห้องที่มีเสน่ห์แบบธรรมชาติ ลองเลือกตกแต่งโดยโช้โทนสีเบจ เขียว และน้ำตาล พื้นใช้เป็นพื้นไม้จากธรรมชาติ จากนั้นใช้เครื่องเรือนแบบสมัยเก่า ทาสีผนังด้วยสีอ่อน จะช่วยให้ห้องดูสง่างาม น่าอยู่ ส่วนเครื่องเรือนอาจบุด้วยผ้าทอ หรือถัก เพิ่มความอบอุ่นด้วยผ้าห่มและหมอนอิงที่วางซ้อนกัน
      
        - ส่วนใครที่ชอบอ่านหนังสือ อยากมีห้องสมุด สามารถตกแต่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของคอนโดฯ ให้เป็นห้องสมุดได้ โดยอาจเลือกพื้นที่ในส่วนที่ติดกับห้องนั่งเล่น จากนั้นใช้เครื่องเรือนที่เป็นตู้หนังสือขนาดใหญ่มาวางกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนเพื่อใช้ให้เป็นห้องสมุด หรืออาจจะใช่วิธีสร้างประตูโค้งแยกออกมาจากพื้นที่นั่งเล่นก็ได้เหมือนกัน โดยประตูโค้งที่ว่ามานี้สามารถตัดไม้ทำเป็นรูปโค้งติดบนเพดาน และจัดให้ฐานรองรับทั้งสองด้าน
      
        -ห้องสมุดที่ตกแต่งขึ้นมาใหม่ควรเลือกใช้ตู้หนังสือและเก้าอี้มีเท้าแขนแบบเก่าที่เคยเห็นใช้ตามคฤหาสน์ทั่วไป จะทำให้ห้องสมุดดูหรูหราและมีกลิ่นอายของความเป็นคลาสสิกมากขึ้น ส่วนสีสันของห้องน่าจะใช้โทนสีครีมจะช่วยให้บรรยากาศโดยรวมสว่างและพื้นที่กว้างขวาง
      
        - เครื่องเรือนที่ใช้ สามารถหาได้จากร้านขายของเก่า ซึ่งมีเฟอร์นิเจอร์สไตล์แบบคลาสสิกให้เลือกหลายแบบ จากนั้นนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับเครื่องเรือนที่มีอยู่ ใครที่ชอบสีแบบธรรมชาติอาจเลือกเครื่องเรือนที่ทำจากไม้สีเขียวมะกอก ตกแต่งห้องนั่งเล่นด้วยเก้าอี้ยาวบุหนัง ประดับหน้าต่างด้วยมู่ลี่ไม้ ก็สวยเก๋ไปอีกแบบค่ะ
      
       - หากต้องการตกแต่งแบบแนวย้อนยุค เลือกตกแต่งด้วยโครงสีเขียวเข้มขรึม สีมะกอก หรือสีผักเขียวแก่ๆ ร่วมด้วยสีน้ำตาลและสีเทาในหลากโทน จะช่วยให้โทนสีของห้องเป็นแบบสไตล์คลาสสิก ดูแล้วอบอุ่น นิ่มนวล
      
       ***********
      
       กำหนดโทนสีสำหรับตกแต่ง
        ก่อนตกแต่งห้องทุกแบบ ทุกสไตล์ ควรกำหนดโทนสีสำหรับตกแต่งบ้านเพื่อการตกแต่งจะได้ง่ายขึ้น โดยแบ่งเป็นโครงสีหลักและโครงสีรอง โครงสีหลักเป็นสีที่ใช้กับพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในห้อง เช่น สีของเพดาน ผนัง และพื้น ควรเป็นโทนสีเดียวกัน ถ้าเลือกเป็นสีโทนเย็นอาจใช้สีของเพดานเป็นสีขาว ผนังเป็นสีฟ้า พื้นเป็นสีโอ๊กสีดำ ซึ่งสีโดยรวมจะแลดูเย็นสบาย แต่ถ้าชอบสีโทนร้อน อาจทาสีเพดานให้เป็นสีขาว สีผนังให้เป็นสีครีมออกส้ม พื้นเป็นสีแดง จะช่วยให้โทนสีเข้ากัน
      
        ส่วนโครงสีรอง ควรเลือกใช้ประมาณ 20 -25 % ของโครงสีห้องทั้งหมด ไม่ควรเกิน 3-4 สี อาจเป็นสีที่เข้ากันได้กับสีหลัก หรือคู่สีที่เป็นกลางหน่อย เลือกใช้กับเครื่องเรือนเล็กๆ หรือของประดับตกแต่งต่างๆ เช่น ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง ผ้าบุเครื่องเรือน เป็นต้น
      
       วางแผนการเงินก่อนซื้อคอนโดฯ
       - ก่อนซื้อคอนโดฯ ควรสำรวจดูว่ารายได้หลักของครอบครัวมีมากแค่ไหน และมีรายรับมาจากที่ไหนบ้าง เพื่อจะได้วางแผนเลือกซื้อคอนโดฯ ได้ถูกว่าจะใช้งบประมาณเท่าใด หรือสามารถเลือกซื้อคอนโดฯแบบใดได้บ้างจากจำนวนงบประมาณที่มีอยู่ วิธีนี้เป็นการประเมินศักยภาพของตนเองก่อนซื้อคอนโดฯ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน พร้อมที่จะซื้อคอนโดฯแล้วหรือยัง
      
       - เมื่อมีงบประมาณสำหรับคอนโดฯ ที่จะซื้อแล้ว ควรจัดสรรส่วนค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนโดฯ ให้เหมาะสมตามสัดส่วน เช่น ค่าเงินดาวน์ ค่าส่วนกลางแรกเข้า ค่าตกแต่งภายใน ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟ ค่าจดจำนอง ฯลฯ เพื่อให้รู้ว่าจะต้องใช้จ่ายในเรื่องอะไรบ้าง จะได้เตรียมงบถูก และงบไม่บานปลายในภายหลัง
      
       - ถ้าคุณต้องการขอสินเชื่อจากธนาคารในการซื้อคอนโดฯ ควรศึกษารายละเอียดของแต่ละธนาคาร แล้วเลือกข้อเสนอที่คิดว่าดีที่สุด
      
       -สำหรับใครที่ต้องการซื้อคอนโดฯ แบบผ่อนชำระ ควรประเมินกำลังตัวเองว่าจะสามารถผ่อนเงินค่าคอนโดฯ ได้มูลค่าเท่าใด อาจคำนวณเงินออกมาเป็นค่าผ่อนคอนโดฯ 30% ของรายได้เพื่อไม่ให้ภาระหนักอึ้งเกินไป สมมติมีเงินเดือน 30,000 บาท 30 % ของรายได้ คือประมาณ 9,000 บาท เมื่อทราบรายได้และเงินที่สามารถผ่อนได้แล้วก็อาจเอาเงินจำนวนนี้ไปคำนวณหาวงเงินที่กู้ได้ ดังนี้
      
       (เงินงวด X จำนวนเงินที่ผ่อนชำระ)/ (1+ (อัตราดอกเบี้ย/100) จากสูตรนี้จะช่วยคำนวณวงเงินกู้ได้ เมื่อวางแผนงบประมาณในการซื้อคอนโดฯ ต่อไป
      
       -สำหรับใครที่กู้เงินธนาคาร อาจใช้ที่ดินเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ได้ อันดับแรกเราสามารถประเมินได้ด้วยตัวเองว่าหลักทรัพย์นั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ โดยดูจากราคาประเมินของกรมที่ดิน หรือราคาตลาดในนิตยสารเกี่ยวกับบ้านและที่พักอาศัย ซึ่งจะมีข้อมูลตรงนี้ให้ ปกติธนาคารจะตกลงเมื่อทรัพย์สินนั้นมีราคาสูงกว่าวงเงินประมาณ15%
      
       - ใครที่มีบัญชีเงินฝาก สามารถนำบัญชีเงินฝากไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้เหมือนกัน โดยบัญชีธนาคารนั้นจะได้รับดอกเบี้ยจากธนาคารตามปกติ แต่ไม่สามารถถอนมาใช้ได้
      
       - ถ้าขอสินเชื่อจากธนาคารแบบกู้ร่วม ธนาคารจะคิดคำนวณจากทรัพย์สิน รายได้ และหนี้สินของผู้กู้ร่วมทุกคนมาพิจารณาด้วย ดังนั้นถ้าจะหาผู้กู้ร่วมควรเป็นคนที่มีเครดิตดีด้วย จะช่วยให้การกู้เงินสะดวกมากขึ้น

 
 
 
 
       คอนโดฯ ทำเลทองย่านรถไฟฟ้าสายใหม่
      
        คอนโดฯ สมัยนี้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ดังนั้นสำหรับใครที่สนใจอยากจะซื้อคอนโดฯ ไว้อยู่อาศัย หรือต้องการซื้อไว้สำหรับเก็งกำไร แต่ไม่รู้จะซื้อที่ไหนดี Metro Life ขอแนะนำเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ ซึ่งเหมาะสำหรับซื้อคอนโดฯ เป็นที่สุด ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้เพิ่งมีมติอนุมัติเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ มี 4 โครงการ 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 118 กิโลเมตร ดังนี้ค่ะ
      
       - โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ)
        - โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ)
        - โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และช่วงบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก)
        - โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน (อ่อนนุช-สมุทรปราการ) และสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่)
      
        ถ้าหากมีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง รถไฟฟ้า 5 สายนี่แหละค่ะ ที่จะกลายเป็นสุดยอดของทำเลทองสำคัญแห่งหนึ่งในอนาคตเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่สนใจก็รีบสืบเสาะดูว่ามีคอนโดฯ ที่ไหนบ้าง เผื่อจะได้ไปจับจองเพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อเก็งกำไรก็เข้าทีค่ะ
      
        และจากการเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่นี่เอง ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง มาจับจองพื้นที่เกาะกระแสเส้นทางรถไฟฟ้า เช่น
      
        อารียา พรอพเพอร์ตี้ จัดแกรนด์โอเพนนิง โครงการเอ สเปซ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เองที่สยามพารากอน ทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช เป็น คอนโดฯ สูง 7 ชั้น จำนวน 8 อาคาร มีจำนวนทั้งสิ้น 1,500 ยูนิต จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยม ใช้ชีวิตมีสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง โดยจับลูกค้านอกพื้นที่อ่อนนุชและสุวรรณภูมิ ลูกค้าระดับราคาตั้งแต่ 1.2-1.5 ล้านบาท อายุระหว่าง 25-35 ปี
      
        นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ เปิดโครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์ คอนโดมิเนียม ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็น คอนโดฯ สูงขนาด 16 ชั้น 3 ตึก บนพื้นที่ 17 ไร่ รวมจำนวน 1,210 ยูนิต ขนาดของห้อง ตั้งแต่ 40-72 ตารางเมตร ราคาตั้งแต่ 1.2- 2.5 ล้านบาท หรือคิดราคาตารางเมตรละ 31,000 บาท ตั้งอยู่บนถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) ศรีนครินทร์ ใกล้โครงการรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย สายอ่อนนุช-แบริ่ง
      
        ศุภาลัย เมื่อต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ศุภาลัยเปิดตัวโครงการ คอนโด ศุภาลัย ปาร์ค ศรีนครินทร์ ริมถนน ศรีนครินทร์ เป็นอาคารสูง 25 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 1,415 ยูนิต 97 ร้านค้า มูลค่า โครงการ 3,040 ล้านบาท
      
       10 อันดับ คอนโดฯ ที่ได้รับความนิยม จาก www.homedd.com
      
        1.เซ็นจูรี่ ปาร์ค คอนโดมิเนียม (ทำเลจตุจักร-หลักสี่- เมืองนนท์)
        2.ปาล์มมี่เพลส คอนโดมิเนียม (ทำเลบางกะปิ-รามอินทรา-สุวินทวงศ์)
        3.โมเดอร์นโฮมทาวเวอร์ (ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน)
        4.รัชดาวิลล์ คอนโด (ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน)
        5.เรสิเดนซี่ ไฮทส์ (ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน)
        6.ลุมพินี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม (ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน)
        7.ไดมอนด์เพลส รัชดา 2 (ทำเลจตุจักร- หลักสี่-เมืองนนท์)
        8.เรย์มอนด์ทาวเวอร์ (ทำเลบางกะปิ-รามอินทรา- สุวินทวงศ์)
        9.แฟลมมิลี่ (ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน)
        10.สาธรเพลส (ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน)
       
       
       **************
      
        ชอปเครื่องใช้ในบ้าน

 
 
 
 
       สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องใช้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว หรือซักล้าง Metro Life ขอแนะนำเครื่องใช้ในบ้านที่น่าสนใจ ดังนี้ค่ะ
      
       เตาไฟฟ้า
      
       สำหรับใครที่อยากปรุงอาหาร แต่ไม่อยากใช้เตาแก๊ส เราขอแนะนำให้ใช้เตาไฟฟ้าซึ่งเหมาะสุดสำหรับใช้ในคอนโดฯ ค่ะ เตาไฟฟ้านี้สามารถเคลื่อนย้ายสะดวก ไม่เปลืองที่ สามารถนำไปใช้ในการทอด ต้ม อุ่น นึ่ง ตุ๋น หมดปัญหาเรื่อง แก๊สรั่ว แก๊สหมด เหมาะสำหรับใช้ในคอนโดมิเนียม มีสวิตช์ ปิด / เปิด เพิ่มความสะดวกและ ความปลอดภัยในการใช้ หัวเตาและสวิตช์ นำเข้าจากประเทศเยอรมนี EGO สามารถปรับระดับวัตต์ (ความร้อน) ได้ 6 ระดับ ช่วยให้ประหยัดไฟ ให้ความร้อนสม่ำเสมอ ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อ OVER HEATING
      
       มีให้เลือกซื้อ 2 รุ่น คือ รุ่น KOE – 1500 w น้ำหนัก 2.65 กก. และ รุ่น KOE- 1000 w น้ำหนัก 2 กก. สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kando.co.th หรือโทร.0-2758- 1610-5 แฟกซ์. 0-2384- 3951
      
       ข้อควรระวังในการใช้เตาไฟฟ้า
      
       1. ขณะที่เตาไฟฟ้ากำลังทำงาน หรือถอดปลั๊กออกแล้วแต่เตายังมีความร้อนอยู่ ระวังอย่าใช้มือสัมผัสกับเตาไฟฟ้า
       เพราะอาจเกิดอันตรายได้
      
       2. ก่อนเสียบปลั๊กใช้งาน ควรสำรวจดูส่วนประกอบต่าง ๆ ถ้าพบสิ่งใดชำรุดให้ซ่อมก่อน เพื่อความปลอดภัยค่ะ
      
       วิธีการใช้เตาไฟฟ้า
      
       เตาไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้สำหรับหุงต้มหรือปรุงอาหาร มีทั้งแบบธรรมดาให้ความร้อนได้ระดับเดียว และแบบปรับความร้อนได้หลายระดับ การใช้งานของเตาไฟฟ้าก็ง่ายๆ เวลาจะใช้ก็เสียบปลั๊กของเตาไฟฟ้าเข้ากับปลั๊กจ่ายไฟภายในบ้าน กระแสไฟจะไหลผ่านลวดความร้อนทำให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งลวดความร้อนเป็นสีแดง จึงวางภาชนะลงบนเตาได้ ปกติเตาไฟฟ้าจะมีสวิตช์ปรับระดับความร้อนได้ตามที่ต้องการ เมื่อเลิกใช้ให้หมุนสวิตช์กลับมาที่ตำแหน่งหยุดใช้งาน (OFF) แล้วถอดปลั๊กออก
      
       เตาอบไมโครเวฟ
      
       เตาอบไมโครเวฟของ LG รุ่น MC-8483NL ช่วยให้การทำครัวของคุณเป็นเรื่องง่ายๆ เหมาะจะใช้ในคอนโดฯ เพราะมีหลายฟังก์ชันให้เลือกใช้งาน มีทั้งระบบไอน้ำ ระบบเกรียม ระบบย่าง และระบบไมโครไวฟ เรียกได้ว่ามีเตาอบไมโครเวฟเครื่องเดียวก็สบายไปหลายอย่าง สามารถทำอาหารได้สบายๆ แม้จะอยู่ในคอนโดฯ
      
       นอกจากนี้แล้ว ตัวเครื่องภายในสเตนเลสสตีล ยังดีไซน์สวยหรูน่าใช้งาน รูปทรงภายในเป็นทรงกลม เพิ่มเนื้อที่ใช้สอย และง่ายต่อการทำความสะอาด ประกอบด้วยระบบนึ่งอาหารอัตโนมัติ 20 เมนู , ระบบปรุงอาหารอัตโนมัติ 10 เมนู,หน้าจอแสดงผลแบบ VFD Display 4 บรรทัด,อุปกรณ์เสริมคุณภาพสูงสำหรับระบบอบไอน้ำ , ระบบอบเกรียม , ระบบย่าง ใช้กำลังไฟ 1,000 วัตต์ ระบบอบเกรียม 1,500 วัตต์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://th.lge.com
      
       เครื่องซักผ้า
      
        เครื่องซักผ้าของ LG แบบ 1 ถัง รุ่น WF-T6511TD ขนาด 6.5 kg เป็นระบบการซักแบบ TurboDrum 3 step มีจานซัก Punch +3 จานซักเล็ก ลดปัญหาผ้าพันกัน รุ่นนี้มีข้อดีตรงที่มีระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำยาซักผ้า , ประหยัดไฟ , ประหยัดเวลา โดยสามารถเลือกโปรแกรมการซักได้ 4 แบบ (Fuzzy, Jean, Wool, Economy) นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมแช่ผ้าพิเศษ (Speedy Soak) พร้อมโปรแกรมการซักผ้าพิเศษ Extra Wash, Extra rinse , Gentle Spin ตัวถังเป็นสแตนเลส ทนทาน ป้องกันสนิม พร้อมฐานรองเครื่องสวยหรู ทันสมัย ระบบล็อกฝาเปิดเพื่อความปลอดภัย สามารถตั้งเวลาซักล่วงหน้า 3-48 ชั่วโมง สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://th.lge.com
      
       **************
      
        เลือกเครื่องนอนให้ถูกใจ

 
 
 
 
       จะนอนทั้งที ควรจะมีเครื่องนอนที่นอนสบายหน่อย ดังนั้นสำหรับใครที่มองหาเครื่องนอนใหม่ๆ สำหรับห้องคุณ Metro Life มีคำแนะนำมาฝากค่ะ
      
       1. จงจำไว้ว่า ผ้าปูที่นอน 1 ผืนจะทำให้ห้องที่ตกแต่งไว้แล้วทั้งสีและเฟอร์นิเจอร์เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะคอนโดฯ ขนาดเล็ก เตียงนอนมักจะมีขนาดใหญ่ครึ่งหนึ่งของห้อง ผ้าปูที่นอนที่มีสีฉูดฉาดจะกลายเป็นจุดเด่นของห้องไป ทำให้ผลงานหลายบาทที่คุณจ้างมัณฑนากรตกแต่งกลายเป็นของด้อยค่าไป
      
       2. ผ้าหุ้มไส้เตียงควรเลือกใช้ผ้าที่มีส่วนผสมของฝ้ายหรือวิสโคสหรือเรยอน ในปริมาณสูง ๆ เพื่อผิวสัมผัสจะได้นุ่มลื่นและเย็น นอนสบาย สามารถระบายอากาศได้ดี ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าผ้าปูเตียงที่มีส่วนผสมของไนลอนหรือโพลีโพรทิลีนในปริมาณสูง ผ้าจะเนื้อหยาบ ระบายอากาศไม่ดี มีราคาถูก สังเกตจากเนื้อผ้าที่มีแววสะท้อนแสงจะมีส่วนผสมของโพลีโพรทิลีนในปริมาณสูง ส่วนผ้าปูเตียงนั้น ขอย้ำว่าถ้ามีปัจจัยมากพอ ให้เลือกที่มีฝีเข็มมากๆตัวเลขยิ่งเยอะยิ่งดี เพราะจะยิ่งนอนสบาย
      
       3. ผ้าปูเตียงประเภทกันไรฝุ่นอาจจะดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาคนขายๆคุณอาจจะลูบเสียจนลื่นเนียน หรือแม้กระทั่งเอาซีอิ๊วหยอดให้ดูเพื่อให้เห็นว่าซีอิ๊วไม่เกาะ แต่เวลานอนก็ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ เพราะน้ำมักจะซึมผ่านไม่ได้ ให้ความรู้สึกเหมือนนอนบนพลาสติก จะทำให้หลังคุณอุ่นกว่าปรกติ
      
       4. ผ้านวมกับคอนโดฯ เป็นของคู่กัน เพราะคอนโดฯ ใหญ่เปิดแอร์ตอนนอน เพราะฉะนั้นควรเลือกซื้อผ้านวมที่มีเปลือกหุ้มทำจากผ้าซาตินในความถี่ฝีเข็มต่อ 1 นิ้วที่มากหน่อย เพราะจะทำให้ลื่นตัวนอนสบายท่ามกลางแอร์เย็นฉ่ำ
      
       5. ไส้ผ้านวมถ้าเลือกได้อย่าใช้ใยสังเคราะห์ เพราะนอนๆไปเหงื่อจะออก หลังแฉะ และไม่ระบายเท่าที่ควร ถ้าเลือกได้หาไส้นวมที่ทำจากไหมจีนแท้ๆ สนนราคาอาจจะแพงสักหน่อย แต่ในระยะยาวจะคุ้มค่ามหาศาลเพราะนอนสบายกว่ากันมาก
      
       6. ที่นอนหนานุ่มมักจะทำให้เราปวดหลัง ที่นอนแข็งประเภทยางพาราผสมใยมะพร้าวเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อาจจะไม่นุ่มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องยุบตัว และไม่ทำให้เราเครียดจากอาการปวดหลัง ต่างจากที่นอนสปริงซึ่งใช้ไปพักเดียวสปริงก็จะหย่อน โดยเฉพาะถ้าใช้ไปนานๆ คุณอาจจะเกิดปัญหาตกเตียง เพราะสปริงช่วงปลายที่นอนเทลงเนื่องจากความล้าของลวดสปริง จำไว้ว่าที่นอนสปริงเวลาจะเปลี่ยนผ้าปูจะเหนื่อยมาก เพราะมันหนัก ยางพาราร้อยเปอร์เซ็นต์ก็หนักไม่แพ้กัน
      
       7. หมอนถ้าเลือกได้เอาไส้ในของธรรมชาติเช่นขนเป็ดจะดีกว่า เพราะ นอนสบายกว่าเยอะ กรณีนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบหมอนนุ่ม เพราะ หมอนขนเป็ดจะนุ่มจะห่อรัดคอและศีรษะของคุณทั้งคืน แต่ถ้าสตางค์ไม่พอให้เลือกเอาเส้นใยประเภทที่ไม่ใช่ใยทั้งผืน แต่เป็นแบบที่มีใยก้อนหลายๆ ก้อนมารวมกันดีกว่า ราคาอาจจะแพงกว่าไม่มาก แต่คุ้ม เพราะคุณสามารถปรับระดับความสูงต่ำของหมอนได้ด้วยตัวคุณเองแค่รูดซิบและควักไส้ของมันออกมาเท่านั้น
      
       8. หมอนเพื่อสุขภาพทั้งหลายทั้งปวงก่อนซื้อตัดสินใจให้ดี โดยเฉพาะที่ระบุว่ายัดโดยวัสดุประเภทเปลือกถั่ว ข้าวบาร์เลย์ หรืออะไรต่อมิอะไร เพราะในระยะยาวมันจะขึ้นรา เนื่องจากความชื้นของเหงื่อและความสกปรกจากหัวคุณจะนำเชื้อโรคเหล่านี้ใส่หมอน
      
       ************
      
       ปลูกต้นไม้เพื่อห้องสดใส

 
 
 
 
       อยู่คอนโดฯ แบบนี้แต่งห้องให้สดใสด้วยต้นไม้ก็เข้าท่าดี ห้องจะได้ดูสดชื่นน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะค่ะ ซึ่งในพื้นที่จำกัดแบบนี้เราสามารถหาต้นไม้มาประดับตกแต่งห้องได้ ต้นไม้ที่นำมาตกแต่งก็ควรเป็นไม้กระถางในร่มที่สามารถเติบโตในอาคารคอนโดฯ ได้เป็นอย่างดี หรือเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการใช้แสงแดดมากค่ะ
      
        ต้นไม้ในกระถางที่น่าปลูก
      
        ควรใช้ต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมาก เช่น บอนต่างๆ เฟิร์น โกสน พลูด่าง สาวน้อยประแป้ง เดหลี วาสนา กำมะหยี่ หมากผู้หมากเมีย รวงข้าว ระฆังทอง หน้าวัวใบ ละอองดาว บัลลังก์เงิน พลู ผีเสื้อราตรี เปปเปอร์โรเมีย ฯลฯ
      
        ส่วนใครที่อยากปลูกต้นไม้ริมระเบียงที่มีพื้นที่เยอะหน่อย อาจเลือกปลูกต้นไม้ที่ต้องการใช้แดดประมาณ 50% เช่น โป๊ยเซียน เบญจมาศ ว่านสีทิศ ดาวเรือง ชวนชม กุหลาบ เฟื่องฟ้า พวงแก้ว เข็ม กระดุมเงิน โมก บลูฮาวาย ฟ้าประดิษฐ์ ฯลฯ
       
        วิธีดูแลรักษาต้นไม้ในคอนโดฯ
      
        1.ควรนำต้นไม้ไปตั้งในบริเวณที่อากาศถ่ายเท หรือ เย็นสบาย ไม่ร้อนมาก อย่าตั้งต้นไม้ในบริเวณที่มีลมพัดแรงๆ ไอร้อน หรือไอเย็นพัดผ่าน เพราะอาจทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาตายได้
      
        2.อย่าเพิ่งให้น้ำและให้ปุ๋ยทันทีที่นำต้นไม้มาปลูก ช่วงแรกควรให้น้ำแต่น้อย ไม่มากนัก พอผ่านไปสัก 2 – 3 สัปดาห์รอให้ต้นไม้ปรับตัวได้ค่อยเลื่อนต้นไม้ไปไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยจุดที่วางกระถางควรไม่วางกีดขวางทางเข้าออก
      
        3. ต้นไม้ที่นำมาปลูกไม่ควรสูงเกิน 6 ฟุต เพราะจะทำให้ดูรกรุงรัง และระวังอย่าให้กระถางต้นไม้ หรือไม้ประดับรกมาก เพราะอาจกลายเป็นที่อยู่อาศัยของแมลง หรือ ยุง ได้
      
        4. ควรใช้จานรองก้นกระถาง เวลารดน้ำจะได้ไม่เปรอะเปื้อนออกนอกกระถาง ซึ่งจะทำให้พื้นห้องเลอะเทอะ เวลารดน้ำก็ให้รดเฉพาะโคนต้น
      
        5. เมื่อนำต้นไม้มาปลูกได้ประมาณ 2 เดือน ดูว่าต้นไม้น่าจะแข็งแรงดีแล้วก็ควรเอาต้นไม้ไปตั้งริมระเบียงเพื่อรับแสงอาทิตย์บ้าง ต้นไม้จะได้แข็งแรงค่ะ
       
       แหล่งชอปต้นไม้ + กระถาง
      
       ดินไทย
       จำหน่ายกระถางดินเผา และตุ๊กตาดินเผาสไตล์ร่วมสมัยหลากหลายรูปแบบ เลขที่ 23/10 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โทร.0-2922-1439
      
       นภสร
       จำหน่ายกระถางปูนเปลือยสไตล์ร่วมสมัย ปากคลองตลาด โทร.0-2222-6895
      
       สวนสุขสิริ
       จำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด ที่อยู่ 8/1 หมู่ 6 ถ.ตลิ่งชัน- สุพรรณบุรี ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โทร.0-2903-8784,
      
       สวนเฟื่องฟ้า
       จำหน่ายเฟื่องฟ้าทุกชนิด ทั้งปลีก- ส่ง ที่อยู่ 106/1 ม. 5 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี (อยู่ตรงข้ามกับโลตัสบางใหญ่ โทร.08-9771-6494
      
       Busaba Garden
       จำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ กระถาง และอุปกรณ์ในการทำสวน รับจัดและตกแต่งสวนหย่อม หรือไม้ในอาคาร รับสั่งต้นไม้ทุกชนิด ที่อยู่ 61 ถ.เอกมัย สุขุมวิท 63 กรุงเทพฯ โทร.0-2718- 8597-8, 08-1914-0425
      
       ไม้มงคล
      
        อยากเสริมโชคบารมี แนะนำให้ปลูกไม้มงคล มาดูกันค่ะว่าไม้มงคลที่ว่านี้ เขาเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมดวงชะตายังไงบ้าง
      
        1.โป๊ยเซียน ต้นไม้ที่เชื่อกันว่าจะนำโชคลาภมาให้และยังเชื่อว่าสามารถป้องกันคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของ ตลอดจนครอบครัวให้มีความสุข เพราะต้นโป๊ยเซียนนั้นเป็นตัวแทนของเทพเจ้าทั้ง 8 องค์ ซึ่งคอยคุ้มครองมนุษย์ให้อยู่อย่างสงบสุขและมีความเจริญรุ่งเรือง
      
        2.หมากผู้หมากเมีย ไม้ต้นนี้ช่วยส่งเสริมมงคลให้ผู้ที่เป็นคู่ชีวิตให้ประสบความสุข รักใคร่ปรองดองกัน นอกจากนี้ยังช่วยดลบันดาลให้ความหวังของคุณสมปรารถนามีแต่ความสุขความเจริญอีกด้วย
      
        3.พุทธรักษา เชื่อกันว่าหากครอบครัวใดปลูกต้นพุทธรักษาครอบครัวนั้นก็จะมีแต่ความสุข โดยที่ไม่มีเรื่องร้าย ๆ เข้ามากล้ำกราย
      
        4.ธรรมรักษา คนโบราณเชื่อกันว่าหากบ้านใดที่ปลูกต้นธรรมรักษา สมาชิกทุกคนในบ้านก็จะได้รับการปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากอันตราย และมีความสงบสุข
      
        5. เงินไหลมา ต้นไม้นี้เชื่อกันว่าหากบ้านใดปลูกต้นเงินไหลมาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะร่ำรวย เงินไหลมาเทมา
       
      
       *************
       
       สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนคอนโดฯ สุดหรู....

 
 
 
 
       ความเชื่อในเรื่องโชคลางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกันของแต่ละชนชาติ โดยเฉพาะดินแดนตะวันออกอย่างบ้านเรามีความเชื่อในเรื่องนี้อย่างเหนียวแน่น นมนานและหลากหลาย อย่างน้อยๆ ความเชื่อเหล่านั้นก็เป็นสิ่งที่ให้เรายึดเหนี่ยวได้ในยามที่เกิดความว้าวุ่นใจ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างกำลังใจได้ในอีกทางหนึ่งด้วย แต่ทั้งสองสิ่งนี้ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความจริงและปัญญานะคะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เครื่องรางและคอนโด ฯ จึงน่าจะเป็นอีกสิ่งที่น่าต้องมีคู่กันตามไลฟ์สไตล์ของคนเมือง แต่แบบไหนสไตล์ใดจะเป็นคุณที่สุดเลือกเองแล้วกันค่ะ....
       
       พระพุทธรูป....
      
       พระปฏิมาอันเป็นองค์แทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่น่าจะคุ้นตาและคุ้นเคยกับหนุ่มสาวเมโทรหลายๆ คน ทั้งที่เป็นรูปจำลองของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง พระปฏิมาประจำวันเกิด และอีกหลากหลายรูปแบบ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรเช่าหาเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับคอนโดฯ สุดหรูของคุณ ที่สำคัญเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ สำหรับใครๆ ที่นิยมในพลังพุทธคุณ
      
       เมโทรไลฟ์แนะนำให้ไปเช่าหาตามวัดต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพราะพระปฏิมาเหล่านั้นจะผ่านการพุทธาภิเษกมาแล้วอย่างแน่นอน!! แต่ถ้าหนุ่มสาวเมโทรท่านใดคิดว่าพุทธคุณเป็นเรื่องทางใจ พุทธศิลป์สิต้องมาก่อน ก็ควรพุ่งตรงมาได้ที่สนามพระไม่ว่าจะเป็น ท่าพระจันทร์ วัดราชนัดดาฯ ตลาดนัดจตุจักร โรงแรมมณเฑียร สีลมแกลลอเรีย ฯลฯ พระปฏิมาที่สนามพระเหล่านี้สวยงามในแง่พุทธศิลป์และมีให้เลือกหลากหลาย แต่เมโทรไลฟ์ไม่รับรองในความแท้ความเทียม เรื่องอย่างนี้ต้องดูกันเองแล้วล่ะ...
       
       เทวาและเทวี....
       ความเชื่อในพลังเทวานุภาพของเหล่าทวยเทพตามคติฮินดูเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ยังคงมีลมหายใจในสังคมไทยควบคู่ไปกับการเชื่อในคำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งตามเทวปรัชญาทวยเทพแต่ละพระองค์ก็มีเทวานุภาพที่แตกต่างกันไป อาทิ พระคเณศวรก็เป็นเทพผู้ขจัดอุปสรรคและประทานความสำเร็จ ที่สำคัญเป็นเทพพระองค์แรกที่ต้องได้รับการกราบไหว้บูชาก่อนเทพทุกพระองค์โดยที่ไม่มีข้อยกเว้น พระศิวมหาเทพผู้เป็นบิดาแห่งจักรวาล พระศรีมหาอุมาเทวีพระมหาเทวีแห่งจักรวาลและทรงเป็นมหาเทวีแห่งพลังอำนาจความสูงศักดิ์ พระวิษณุเทพผู้บริหารโลก พระศรีลักษมีเทวีแห่งความรักและโชคลาภ พระพรหมเทพผู้สร้างโลกและจักรวาล พระสรัสวดีเทวีแห่งปัญญาและคำพูด พระศรีกฤษณะและพระนางราธาเทพและเทวีแห่งความรื่นรมย์ พระศรีทุรคาเทวีแห่งพลังอำนาจ พระขันธกุมารเทพแห่งอำนาจและการต่อสู้แข่งขัน ฯลฯ
      
        หากต้องการเทวรูปที่ผ่านการเทวาภิเษกเรียบร้อยแล้วก็ควรเช่าหาได้ตามองค์กรต่างๆ ที่จัดสร้างขึ้น เช่น พระคเณศวรของกรมศิลปากร พระคเณศวรของมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น ส่วนเทวรูปของเทพพระองค์อื่นๆ ในเมืองไทยจะไม่นิยมจัดสร้างเท่าที่ควร อ้อ !!! ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) เป็นอีกหนึ่งเทวาลัยที่มีเทวรูปของทวยเทพทุกพระองค์ให้เช่าบูชา ที่สำคัญเมื่อเช่าพระจากเทวาลัยแห่งนี้พราหมณจารย์จะทำพิธีให้ตามตำรับของศาสนาฮินดูแบบอินเดียตอนใต้ที่เข้มขลัง.....
      
        สำหรับสถานที่เช่าหาเทวรูปสุดฮิตถ้าเป็นสไตล์อินเดียก็ต้องพุ่งตรงมาที่ตรอกแขกพาหุรัด ที่มีให้เลือกทั้งแบบที่หล่อมาจากสำริด แบบที่แกะมาจากหินอ่อน หินสบู่และหินภูเขาไฟ แต่ว่ากันมาว่าแบบที่สร้างมาจากสำริดจะเริ่ดสุดค่ะ ชอบแบบไหนคุณต้องเลือกค่ะ ถ้าเป็นแบบสไตล์ไทยๆ ท่าพระจันทร์และวัดราชนัดดาฯ เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดนะคะ
       
       เทพเซียน VS ตุ๊กตาจีน....
       ของสองสิ่งนี้นอกจากจะเป็นสื่อสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลแล้ว ตามหลักวิชาฮวงจุ้ยยังเชื่อว่าสามารถก่อให้เกิดความสมดุลในพลังหยินและหยางได้ รูปหล่อที่นิยมนำมาตั้งในบ้านก็มีรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมสัญลักษณ์แห่งความเป็นมงคลสูงสุดตามคติจีนที่สำคัญพระองค์ทรงเป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตาด้วยล่ะค่ะ แปดเซียนคะนองฤทธิ์สัญลักษณ์แห่งความเป็นมงคลที่นิยมแพร่หลาย ฮก ลก ซิ่วตุ๊กตาชายชราสามคนสื่อสัญลักษณ์ถึงความมีโชคลาภ ยศถาบรรดาศักดิ์ และอายุยืนหมื่นๆ ปี กบสามขาสัญลักษณ์ของความร่ำรวย กิเลนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขจัดพลังชั่วร้ายและภูตผีปีศาจได้ ฯลฯ
      
       นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางที่มาแรงมากๆ ในตอนนี้ “ปี่เซี๊ยะ” สัตว์กึ่งเทพที่ได้รับความนิยมมานานนับพันๆ ปี ให้พลังทั้งเรื่องโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองและป้องกันความชั่วร้ายได้ เรื่องอย่างนี้ต้องพิสูจน์เองเจ้าค่ะ เมโทรไลฟ์ไม่การันตี....
      
       ตามหลักฮวงจุ้ยถ้าห้องของคุณตรงกับบันไดหรือลิฟต์ของคอนโดฯ จะถือว่าห้องดังกล่าวพลังหยินหยางไม่สมดุล แต่ก็อย่าพึ่งตกอกตกใจไปล่ะทุกอย่างมีทางแก้ไข ง่ายนิดเดียวใช้ยันต์แปดทิศ สิงห์โตคาบดาบ หรือแม้แต่กระจกเงาไปติดก็สามารถแก้ได้แล้ว ตามหลักการท่านว่าถ้าจะติดเครื่องรางทั้งสามต้องปรึกษาซินแสหรือผู้รู้ให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าติดไม่ถูกต้องจะเป็นการนำพลังชั่วร้ายกลับเข้ามาสู่บ้านของคุณเอง แหล่งชอปเครื่องรางและของมงคลแบบจีนๆ มีมากมายทั่วกรุงเทพฯ แต่ถ้าจะให้ได้สนนราคาพอฟังแต่ของคุณภาพสูง ถนนเยาวราชและเจริญกรุงทั้งสองฟากฝั่งเป็นแหล่งชอปที่ไม่ควรมองข้าม....